ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ดวงเฮง ผงาดคว้าแชมป์โลกโมโต จีพี สมัยแรกในชีวิต หลังจาก ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า แหกโค้งไม่มีแต้ม ส่วน มาร์ค มาร์เกวซ นักบิดสแปนิช เข้าป้ายอันดับ 1 ที่มิซาโน่ คว้าแชมป์ 2 เรซติดต่อกัน
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 16 ของปี รายการ เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม มิซาโน่ เวิลด์ เซอร์กิต โดยวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นรอบแข่งขันจริง
ปรากฎว่า ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ยอดนักบิดชาวอิตาเลียน สังกัดดูคาติ เลโนโว่ ทีม ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่งโพล และนำมาตั้งแต่เริ่ม แต่ดันพลาดท่าโชคร้ายแหกโค้งเมื่อเข้าสู่ช่วง 3 รอบสุดท้าย ต้องออกจากการแข่งขัน และไร้แต้มในเรซนี้
และจากการไร้แต้มของ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ส่งผลให้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ สังกัดมอนสเตอร์ ยามาฮ่า ที่เข้าป้ายอันดับ 4 ในเรซนี้ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกในชีวิตไปครองทันที เนื่องจากแต้มสะสมนั้นขาดอย่างเป็นทางการ จากการมี 267 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง บันยาญ่า 65 แต้ม เหลือการแข่งขันอีก 2 เรซ ซึ่งตามไม่ทันแน่นอนแล้ว
ทั้งนี้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ในวัย 22 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดจากฝรั่งเศสคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกโมโต จีพี ได้สำเร็จ หยุดสถิติของนักบิดชาวสแปนิช ที่คว้าแชมป์โลก 9 ครั้งติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
ขณะที่ มาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลก 8 สมัย สังกัดเรปโซล ฮอนด้า เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 41 นาที 52.830 วินาที เป็นการคว้าแชมป์ 2 สนามติดต่อกันของเจ้าตัว หลังจากเรซก่อนเพิ่งจะได้แชมป์ที่อเมริกามาครอง ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ โพล เอสปาร์กาโร่ อีกหนึ่งนักบิดสแปนิชจากทีมเรปโซล ฮอนด้า ตามหลังมาที่ 4.859 วินาที และอันดับ 3 เป็นของ อีเนีย บาสเตียนินี นักบิดอิตาเลียน จากดูคาติ ตามหลังที่ 12.013 วินาที
ขณะที่ "เดอะ ด็อกเตอร์" วาเลนติโน่ รอสซี่ นักบิดจอมเก๋าสังกัดปีโตรนาส ยามาฮ่า ที่ลงแข่งขันโฮมเรซเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต เข้าป้ายอันดับที่ 10