เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เชิญตัวแทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมหารือ กรณีที่ประเทศไทยถูกองค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก หรือ วาด้า (WADA) ลงโทษแบน 1 ปี เนื่องจากทำผิดกฎเรื่องสารต้องห้ามเกี่ยวกับนักกีฬาในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 64 เป็นต้นไป ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย
ดร.ก้องศักด แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากการที่วาด้าลงโทษไทยที่ยังไม่ปฏิบัติตามกฎของวาด้าครบถ้วน ทำให้เกิดการจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ซึ่งสิ่งที่ทำได้คือการเร่งกระบวนการแก้ไขกฎหมายไทยให้เร็วที่สุด ขณะที่ผลกระทบโดยตรงต่อวงการกีฬาไทยต่อบุคลากรไทยหยุดปฏิบัติหน้าที่ในสหพันธ์กีฬาโลก รวมทั้งไม่สามารถจัดการแข่งขันกีฬา อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ กกท.ได้ดูเคสตัวอย่างจากสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ที่เตรียมการให้ไทยจัดการแข่งขันมวยไทยนานาชาติชิงแชมป์โลก ที่ จ.ภูเก็ต วันที่ 3-12 ธันวาคมนี้
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า ทาง อิฟม่า ได้หารือกับ วาด้า ในระดับผู้บริหาร ยืนยันว่ายังสามารถเดินหน้าจัดการแข่งขันไปได้ และสำนักงานตรวจสารต้องห้ามของไทยยังทำหน้าที่ตรวจนักกีฬาในการแข่งขันได้ ซึ่งกรณีนี้จากการตีความตามบทลงโทษของวาด้า ยังเปิดช่องให้ยังสามารถจัดการแข่งขันได้เป็นสิทธิ์ของสหพันธ์กีฬานั้นๆ โดยกรณีเกิดขึ้นก่อน ปัจจุบัน และวางแผนจัดการแข่งขันของไทยในอนาคตยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีบทลงโทษออกมา
“กรณีนี้ขึ้นอยู่กับสหพันธ์กีฬาจะชี้แจงการดำเนินการต่อวาด้าได้รับทราบ เคสตัวอย่างจากอิฟม่าจะมีความชัดเจน เพราะมีการวางแผนไว้แล้ว ถ้าระงับจะส่งผลกระทบตามมา ส่วนกรณีหลังจากที่ถ้าไทยเราจะเริ่มนับหนึ่งในการขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในอนาคตตรงนี้ไม่สามารถทำได้ โดยก็อยากจะชี้แจงให้กับแต่ละสมาคกีฬาได้รับทราบ และประสานงานกับทางสหพันธ์กีฬาในการเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป”
ดร.ก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีของนักกีฬาไทยสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ รวมทั้งสามารถใช้ชื่อ และชื่อธงชาติไทยติดบนเสื้อแข่งขันได้ แต่การนำธงไตรรงค์โบกสะบัดขึ้นสู่ยอดเสาในการเฉลิมฉลอง และการเปิดตัวเดินเข้าสู่สนามแข่งขันนั้น ไม่สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรอให้มีการแก้ไขปัญหาทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อน จึงขอให้วาด้าพิจารณาเปลี่ยนแปลงในเรื่องการใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ
“ถือเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับวงการกีฬาไทย ดังนั้นผมจึงอยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกสมาคมกีฬา ได้ทำงานร่วมกันในการช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้ให้เร็วที่สุด ผมขอเรียนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายในวงการกีฬาโลก แต่เราไม่สามารถแก้ไขกฎหมายได้ทันตามกรอบเวลา 3 เดือนที่วาด้าได้กำหนดมา” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว