คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
สะใจคอซาดิสม์ไปตามๆ กัน สำหรับศึกมวยโลกรุ่นยักษ์ที่เปิดศึกกันที่สังเวียนที-โมบายล์ อารีน่า ในลาส เวกัส เมื่อสายๆ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นศึก “ภาค 3” ระหว่างยอดมวยจอมโวชาวอังกฤษ “ยิปซี คิง” ไทสัน ฟิวรี่ เจ้าของเข็มขัดโลกของสภามวยโลก WBC และเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก “สายตรง” ของสถาบันเก่าแก่อย่าง “เดอะ ริง” กับผู้ท้าชิงมวยหมัดหนักชาวอเมริกัน “ไอ้ลูกระเบิดบรอนซ์” ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ ซึ่งนักมวยยักษ์ทั้งคู่ขึ้นมาแลกหมัดกันอุตลุดผลัดกันส่งฝ่ายตรงข้ามลงไปกองกับพื้นผ้าใบรวมแล้ว 5 นับด้วยกัน ก่อนที่ยักษ์อังกฤษจะไล่ถลุงผู้ท้าชิงยับพ่ายน็อกไปด้วยเวลา 1:10 นาทีของยกที่ 11
จริงๆ มวยคู่นี้ควรจะซดกันตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่ช่วงเดือนกรกฎาคมทาง “ยิปซี คิง” ซึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปเข็มนึงแล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เลยไม่ยอมฉีดเข็มที่สอง และเลยติดโรค “โควิด-19” ไป ทำให้ไฟต์นี้ต้องเลื่อนมาเจอกันเมื่อวันอาทิตย์นี้แทน ก่อนชกทางไทสัน ฟิวรี ปล่อยน้ำหนักขึ้นไปถึง 277 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นน้ำหนักที่มากที่สุดเท่าที่เคยขึ้นชกมา ส่วนทางนักชกอเมริกันได้บทเรียนจากไฟต์ “ภาค 2” ที่ครั้งนั้นฟิวรี่มาด้วยน้ำหนัก 273 ปอนด์ และอาศัยความใหญ่ไล่เบียดจนหนีไม่ออกโดนต่อยพ่ายน็อกไปยก 7 คราวนี้ไวล์เดอร์เลยทำน้ำหนักมา 238 ปอนด์ ซึ่งหนักที่สุดเท่าที่เคยขึ้นชกมาเหมือนกัน หนักกว่าไฟต์ที่แล้วถึง 7 ปอนด์ แต่ยังเบากว่าฟิวรี่ 39 ปอนด์ แถมยังจ้างโค้ชคนใหม่ มาลิค สก๊อต เพื่อเสริมเชิงชกให้
ไฟต์นี้นักชกทั้งคู่ออกมาแลกกันชนิดไม่มียั้ง แฟนๆ ซี้ดปากไปตามๆ กัน ไวล์เดอร์นั้นปกติถูกว่าว่าเป็นมวยไร้เชิง อาศัยค้ำต่อยๆ และอาศัยพลังหมัดที่หนักหน่วงเท่านั้น มาไฟต์นี้แรกๆ ทางเทรนเนอร์คนใหม่มาลิค สก๊อต ปรับเชิงให้มีออกหมัดแย็ป มีฟุตเวิร์ก แต่ชกไปๆ สถานการณ์คับขันเข้า ก็กลับมาชกหมัดเดียวตามถนัด ฟิวรี่เป็นมวยใหญ่ที่สปีดหมัดรวดเร็ว ฟุตเวิร์กคล่องแคล่ว สเต็ปเท้าเร็ว เลือกต่อยได้จะแจ้ง และต่อยไวล์เดอร์ได้นับในยก 3 นักชกอเมริกันมีอาการขาลอยทำท่าจะไม่รอด แต่ยก 4 ได้จังหวะต่อยยักษ์อังกฤษร่วงถึง 2 นับ แต่หมดยกก่อน จากนั้นทางฟิวรี่ไม่เสียอาการ แก้เกมด้วยการเข้าประชิดพ้นระยะหมัดของ “ไอ้ลูกระเบิดบรอนซ์” อาศัยน้ำหนักที่มากกว่าไล่ขย่มจนนักชกอเมริกันอ่อนเปลี้ย และอาศัยสปีดหมัดที่รวดเร็วและหลากหลายกว่าทิ่มเอาๆ จากทุกทิศทาง ก่อนต่อยไวล์เดอร์ร่วงไปอีกทีในยก 10 และพอต้นยก 11 “ยิปซี คิง” ก็ทิ่มขวาเต็มกรามไวล์เดอร์หลับคาเชือกกรรมการไม่ต้องนับ ยักษ์อังกฤษชนะสะใจย้ำแค้นได้อีกรอบแบบไม่ต้องมี “ภาค 4” แล้ว ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้
ไฟต์นี้ต้องชมหัวจิตหัวใจของดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ ที่ยืนสู้และพยายามโต้ตลอด แม้จะถูกยำมาตลอดตั้งแต่ยก 6 เป็นต้นมา แต่ความที่เป็นมวยหมัดหนัก ขอโป้งเดียวก็พลิกสถานการณ์ได้ ก็ถือว่ายังอยู่ในเกมตลอด ฟิวรี่นั้นกลายเป็นมวยเหนือชั้นไปแล้ว แต่ไล่ต่อยไปก็เผลอไม่ได้ เพราะโดนเข้าก็อาจร่วงได้เหมือนกัน ไฟต์นี้เลยกลายเป็นไฟต์ที่มันส์สุดๆ แฟนมวยได้ลุ้นตลอดเวลาตอนนี้ฟิวรี่อาจจะอยากเปิดศึก “รวบแชมป์” รุ่นเฮฟวี่เวทกับยอดมวยยูเครน “โอเล็กซานเดอร์ อูซิค” เจ้าของแชมป์ WBA, IBF และ WBO ที่ชิงมาได้จากนักชกอังกฤษอีกรายคือ “เอเจ” แอนโธนี่ โจชัว แต่อูซิคก็ติดภารกิจต้องให้โจชัว “ล้างตา” ตามเงื่อนไข “ออปชั่น” ที่มีอยู่ในสัญญาก่อน ฟิวรี่เลยอาจจะต้องป้องกันกับรองอันดับ 1 ของ WBC ดิลเลี่ยน ไวท์ ที่มีคิวเจออ๊อตโต วาลิน ปลายเดือนนี้ไปก่อน แต่ตอนนี้ฟิวรี่เจอใครน่าจะเป็นต่อบานเพราะฝีมือจัดจ้านเหลือเกินจริงๆ
