คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
เมื่อวันพุธที่ 15 กันยายน 2564 ก่อนเกมการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะลงสนาม เกิดปรากฎการณ์ร้อนแรงในโลกออนไลน์ เมื่อแฟนเพจอย่างเป็นทางการของสโมสรแชมป์ 2 สมัยถ้วยนี้อย่าง ชุนบุค ดันโพสต์รูป ชายหนุ่มในชุดแข่งเขียวแสบตาอุ้มกระต่ายน้อยสีขาวน่ารัก
เท่านั้นแหละครับ เจ้าข้า...เพจต่างๆ ในแวดวงฟุตบอลไทย ต่างก็พากันแชร์เรียกแขกกันใหญ่ ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าชาวเน็ตสายเลือดไทยจะบุกดาหน้าเข้าไปคอมเม้นท์กันขนาดไหน แต่เอาเป็นว่าเท่าที่ดูในแฟนเพจหลักๆ ส่วนใหญ่แล้วจะทราบดีว่าแน่นอนทีมแชมป์จากไทยลีกย่อมเป็นรองอยู่แล้ว แต่เหมือนจะรอจบเกมกันมากกว่า
ที่ว่าเป็นรองนั้นเป็นรองจริงๆ ไม่ได้มาด้อยค่าสโมสาบ้านเกิด เนื่องจากแรงกิ้งทีมชาติก็ห่างกัน คุณภาพลีกต่างกัน คุณภาพผู้เล่นต่างกัน แถมทีมแชมป์จากปทุมธานี ยังไม่มี 3 แข้งหลัก อาทิ อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ต่างต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ฝึกสอนตัวจริงอย่าง ออเรลิโอ วิดมาร์ ของ เดอะ แรบบิท ไม่สามารถเดินทางไปกับทีม เนื่องจากติดปัญหาข้อบังคับ และมาตรการการกักตัวเมื่อเดินทางเข้าประเทศในสถานการณ์โควิด-19 ตามมาตรการของรัฐ กลายเป็นว่าต้องดึง "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ มารับหน้าที่รักษาการณ์คุมทีมชั่วคราว
แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริงๆ ปรากฎว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ถูกมองว่าเป็นรอง สามารถทำได้ดีกว่าที่คาด สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้เป็นรองด้วยคุณภาพฝีเท้า ด้วยขาดตัวหลักหลายคน แต่ก็ยื้อมาไม่เสียประตูมาจนปลายครึ่งแรก แต่ก็เป็นเพียงประตูเดียวที่เสียให้ ชุนบุค ที่เล่นในบ้านแบบ แถมกลับมายิงประตูจากศูนย์หน้าคนไทยดีกรีเจลีกอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ได้อีกด้วย สกอร์อยู่ที่ 1-1 จนครบ 90 นาที และล่วงมาครบ 120 นาที แม้ว่าสุดท้ายจะแพ้จุดโทษ 4-2 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
กระแสต่างๆ ที่พูดถึงฟอร์ม "กระต่ายแก้ว" แชมป์ไทยลีก ล้วนแล้วแต่เป็นไปในทางที่ดี และอีกคำชื่นชมก็มีไปถึง "พี" ศศลักษณ์ ไหประโคน นักเตะสารพัดประโยชน์ที่ส่งลงได้ในทุกตำแหน่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และถูกยืมตัวไปร่วมทีมแชมป์เคลีกด้วยสัญญา 6 เดือน ซึ่งระยะหลังห่างหายจากการลงสนาม นัดนี้ได้ลงสนามเป็นตัวจริง
จากชัยชนะนัดนี้ "พี" ศศลักษณ์ เองก็ได้รับคำชมจาก คิม ซัง ซิก กุนซือยอดทีมเกาหลีใต้ด้วยว่า "เขาได้แสดงฝีมือออกมาแล้ว ด้วยจิตใจอันแข็งแกร่งมาก เขาทำงานหนักเพื่อทีม แสดงให้เห็นทุกอย่างสามารถแสดงได้และยังทำได้ดีด้วย"
ในฐานะแฟนบอลได้ฟังโค้ชต่างชาติพูดถึงนักเตะไทยแบบนี้ เชื่อว่าใครได้ฟังก็ชุ่มชื่นหัวใจเหมือนกัน...