จากกรณีที่มีการตั้งคำถามถึงเงินอัดฉีดของนักกีฬาทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จำเป็นต้องจ่ายภาษีเข้าสู่ภาครัฐหรือไม่?
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ออกมายืนยันเงินอัดฉีดนักกีฬาจากความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เนื่องจากเป็นการมอบให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ โดยเรื่องนี้เป็นมติ ครม. ตั้งแต่เมื่อปี 2559
โดยนักกีฬาทีมชาติไทย จะได้รับเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมี 2 คนที่ได้เหรียญรางวัลแล้ว ประกอบด้วย “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง ที่ได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ตามเงื่อนไขจ่ายเป็นก้อนในอัตราร้อยละ 50 และที่เหลืออีกร้อยละ 50 จ่ายเป็นรายเดือนภายในเวลา 4 ปี
เช่นเดียวกับรายของ "น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี นักมวยสากลสมัครเล่นหญิง รุ่นไลต์เวท 60 กก. ที่การันตีคว้าเหรียญทองแดง และมีโอกาสคว้าเหรียญเงิน และเหรียญทองได้ โดย ผู้ว่า กกท. ระบุ มีเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมอบให้ เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท รวมถึงทัพนักกีฬาไทยที่ยังมีลุ้นรายอื่นๆ ด้วย
