สุดาพร สีสอนดี นักชกหญิงทีมชาติไทย ถึงกับน้ำตาคลอหลังคว้าเหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2020 มาคล้องคอไว้เบื้องต้น ก่อนขอบคุณบิดาผู้ล่วงลับ ที่ผลักดันและสนับสนุนจนมาถึงวันแห่งความสำเร็จ
ขุนพลกำปั้นคนสุดท้ายที่เหลือของทัพไทย ขึ้นสังเวียนมุมน้ำเงินรุ่น 60 กก. ด้วยสีหน้ามั่นใจ ก่อนเดินลุยชกกับ แคโรไลน์ ดูบัวส์ แชมป์ ยูธ โอลิมปิก จากสหราชอาณาจักร ด้วยฟอร์มที่สนุกสูสีและชนะไปแบบเฉือนหวิว 3-2 เสียง
ผลงานนี้ทำให้ "เจ้าแต้ว" การันตีเหรียญทองแดงไปคล้องคอให้อุ่นใจแล้ว และเป็นนักกีฬาไทยคนที่สองที่มีเหรียญโอลิมปิกต่อจาก "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองกีฬาเทควันโด้ ที่ซิวไปได้ก่อนตั้งแต่วันแรก
หลังเกม สุดาพร เผยว่า "ก่อนขึ้นชกก็มีกดดันมากค่ะ แต่เราก็พยายามไม่คิดอะไร ส่วนคู่ต่อสู้วันนี้เป็นมวยต่อยยาว มีหมัดหน้าที่ดี ซึ่งเราศึกษาดูเทปการชกเขามา 3 รอบ แล้วซ้อมกับโค้ช กับน้องๆ เพื่อเตรียมตัวให้ดีที่สุด"
"ไฟต์ต่อไปเจอกับนักชกจากไอร์แลนด์ เราเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งในศึกชิงแชมป์โลก แต่ก็ต้องกลับไปดูก่อนว่าครั้งนี้เขาต่อยเป็นยังไง แล้วค่อยไปสู้ ไปวัดกันบนเวที"
เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาที่กรรมการผายมือให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ นักชกหญิงวัย 29 ปี เผยว่า "ดีใจมาก พูดอะไรไม่ออกเลย เพราะมันคือความฝันของเรา แต่จากนี้วางเป้ายังไง ก็คือขอมองไปทีละรอบดีกว่า"
สุดท้าย สุดาพร ยังให้เครดิตคุณพ่อยอดนคร ที่เสียชีวิตเมื่อ 7 ปีก่อน โดยบอกว่าถ้าไม่มีคุณพ่อก็คงไม่ได้มายืนจุดนี้ "ตอนนี้คิดถึงคนที่บ้าน คิดถึงพ่อ ถ้าไม่มีพ่อก็คงไม่มีวันนี้ เพราะพ่อบังคับให้หนูต่อยมวย (หัวเราะทั้งน้ำตา) ถ้าพ่อยังรับรู้ก็อยากบอกว่าวันนี้หนูทำได้แล้ว"
สำหรับ สุดาพร สีสอนดี มีโปรแกรมขึ้นชกรอบรองชนะเลิศ เจอกับ เคลลี แฮร์ริงตัน จากไอร์แลนด์ วันที่ 5 สิงหาคม 2564 โดยคู่นี้เคยเจอกันมาแล้วในรอบชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์โลก ปี 2018 ที่อินเดีย แล้วเป็น แฮร์ริงตัน ที่ได้เหรียญทอง ส่วน สุดาพร ได้เหรียญเงิน