คริสติน่า ติมานอฟสกาย่า นักกีฬากรีฑาหญิงทีมชาติเบลารุส ขอเข้ารับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในญี่ปุ่น หลังถูกเจ้าหน้าที่ทีมชาติบีบบังคับส่งตัวกลับประเทศ ข้อหาขัดขืนคำสั่งระหว่างแข่งขันโอลิมปิก 2020
ติมานอฟสกาย่า ตกเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อเธอปรากฏตัวที่สนามบินฮาเนดะ เมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยปฏิเสธที่จะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด หลังถูกโค้ชบีบบังคับให้ลงแข่งรายการกรีฑาผลัดหญิง 400 เมตร โดยไม่เต็มใจ ทั้งที่เดิมทีเธอเตรียมลงแข่งประเภท 200 เมตรหญิง
นักวิ่งสาวเบลารุส ก่อนหน้านี้โพสต์คลิปวีดีโอลง โซเชียล มีเดีย เนื้อหาระบุว่า "ฉันถูกกดดันและพวกเขากำลังบังคับให้ฉันออกจากประเทศนี้แบบไม่ยินยอม ฉันจึงขอร้องต่อทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ช่วยเหลือฉันที"
ติมานอฟสกาย่า ประเมินสถานการณ์ของตัวเองว่าหากเดินทางกลับบ้านที่เมืองมิงส์ เธออาจถูกลงโทษจำคุกข้อหาขัดคำสั่งโค้ชทั้งที่ไปแข่งในนามตัวแทนของชาติ "ฉันไม่เคยกลัวต่อการถูกไล่ออกหรือบังคับให้เลิกเล่นทีมชาติ แต่ฉันกังวลเรื่องความปลอดภัย ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับโดนพวกเขากัดกันไม่ให้ลงแข่ง 200 เมตร"
ปัจจุบัน ติมานอฟสกาย่า อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบินนานาชาติฮาเนดะ โดยไอโอซี ยืนยันว่าเธอปลอดภัยดี และเธอยื่นเรื่องขอลี้ภัยทางการเมือง เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ด้านฝั่งของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลของเบลารุส แจงเหตุผลว่าตัดสินใจให้ ติมานอฟสกาย่า ออกจากการแข่งขันเพราะมีปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ อย่างไรก็ตาม ติมานอฟสกาย่า ยืนยันว่าเธอพร้อมลงแข่งขันตามปกติ แต่ไม่ใช่รายการผลัด 400 เมตร ที่ไม่ถนัดและโดนบังคับแบบไม่เต็มใจ