อิตาลี ผงาดคว้าแชมป์ ยูโร 2020 แบบบีบหัวใจ หลังเสมอกับ อังกฤษ เจ้าบ้าน 1-1 ตลอด 120 นาที ก่อนซัดโทษแม่นกว่าชนะ 3-2 คว้าแชมป์ยุโรปสมัย 2 เมื่อคืนวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ยูโร 2020
อิตาลี 1-1 อังกฤษ
(อิตาลี ชนะจุดโทษ 3-2)
คู่ชิงชนะเลิศ อังกฤษ เปิดรังเวมบลีย์ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 64,000 คน ปะทะ อิตาลี เกมนี้ “สิงโตคำราม” ดัน แฮร์รี เคน ยิงเป้าแล้วมี เมสัน เมาต์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำเกมบุก ส่วน “อัซซูรี” วางหน้า 3 สูตรเดิม ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า
เริ่มแค่ 2 นาที อังกฤษ นำอย่างว่องไว คีแรน ทริปเปียร์ โยนออกซ้ายให้ ลุค ชอว์ เติมมายิงเบียดเสาตุง 1-0 ขณะที่ นาที 8 อิตาลี ได้ฟรีคิกระยะลุ้นยิงเข้าทางขวา ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ วางบอลแล้ววิ่งไปซัดแต่ข้ามคาน
นาที 34 อิตาลี จะตีเสมอ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลากตะลุยจากขวาเข้าไปยิงเต็มเท้าแต่หลุดเสานิดเดียว ต่อมา ทดเจ็บ นาที 48 อัซซูรี เติมขึ้นมาต่อ ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี ตั้งป้อมซัดนอกเขตแต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก เจ้าบ้านนำ 1 ลูก
ครึ่งหลัง นาที 50 อิตาลี ได้ฟรีคิกกลางประตู ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ เท้าสะเอวก่อนวิ่งมาตะบันแต่ข้ามคาน กระทั่ง นาที 66 อัซซูรี ทำสำเร็จจากลูกเตะมุม มาร์โก แวร์รัตติ โขกติดเซฟจังหวะแรกแต่บอลเด้งเสาหา ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี พุ่งซ้ำตีเสมอ 1-1
ท้ายเกม นาที 85 อังกฤษ จะลุ้นเอาเม็ดสองจากฟรีคิก ลุค ชอว์ ขอสังหารเองแต่ข้ามคานอีก สุดท้ายไม่มีใครยิงเพิ่มได้ จบ 90 นาที ไม่มีผู้ชนะ ต้องไปสู้กันอีกในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ต่อเวลา นาที 96 สิงโตคำราม เกือบทำได้ คัลวิน ฟิลลิปส์ ตั้งป้อมสับไกแถวสองแต่บอลไม่เข้ากรอบ จากนั้น นาที 106 ฟรีคิกระยะได้ลุ้นซัลโวของ อิตาลี เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี วางเท้าแล้วยิงแหวกอากาศเข้าไป แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด รับติดมือ สุดท้ายก็ไม่มีผู้ชนะ ต้องยิงจุดโทษตัดสิน
ปรากฏว่า 5 คนแรกของ อิตาลี ยิงเข้า 3 คน (โดเมนิโก้ เบราร์ดี, ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี, เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี) ขณะที่ อังกฤษ ยิงเข้า 2 คน (แฮร์รี เคน, แฮร์รี แม็คไกวร์) แต่ 3 คนที่เหลือ มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช, บูกาโย่ ซาก้า ซัดพลาดติดเซฟ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ทั้งหมด สุดท้าย อิตาลี ชนะจุดโทษ อังกฤษ 3-2 ได้แชมป์ยูโร สมัย 2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อิตาลี - จานลุยจิ ดอนนารุมมา, จอร์โจ้ คิเอลลินี, ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี, เอเมอร์สัน, โจวานนี ดิ ลอเรนโซ่, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ, นิโคโล่ บาเรลญ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, เฟเดริโก้ เคียซ่า, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่
อังกฤษ - จอร์แดน พิคฟอร์ด, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็คไกวร์, ไคล์ วอล์คเกอร์, เดแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปส์,ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์, เมสัน เมาต์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี เคน