คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เชื่อมั่น นักแบดมินตันไทย มีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 2 โอลิมปิก โตเกียว 2020 กันแทบทุกประเภท ยกเว้น “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่ ที่ผลการจับฉลากอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ต้องลุ้นทุกแมทช์ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ยังถือว่ามีโอกาสอยู่ จับตา “เมย์” รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว คาดว่า จะเจอ ไท่ ซือ อิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน รอบ 8 คน หากผ่านได้ โอกาสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ก็มีสูง ส่วน “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสม มีลุ้นคว้าเหรียญรางวัล
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากผลการจับฉลากแบ่งกลุ่มแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโตเกียว 2020 โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะแข่งขัน ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 2 สิงหาคมนี้ ที่สนามมูซาชิโนะ ฟอเรสต์ สปอร์ต พลาซา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นักกีฬาไทย มีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 2 กันแทบทุกประเภท ยกเว้นประเภทหญิงคู่ ที่ผลการจับฉลากอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ต้องลุ้นทุกแมทช์ในรอบแบ่งกลุ่ม
เริ่มจาก ชายเดี่ยว “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มือวางอันดับ 14 ของรายการ อยู่กลุ่ม เค ร่วมกับ ไค ไชเฟอร์ จากเยอรมนี, โทบี เพนตี้ จากสหราชอาณาจักร โดย กันตภณ น่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้ ซึ่งโปรแกรมในรอบ 2 หรือรอบ 16 คนสุดท้าย คาดว่า กันตภณ จะต้องไปพบกับ แอนเดรส แอนตอนเซน มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก ซึ่งถือว่าเป็นศึกที่หนักมาก ๆ ของ กันตภณ จากสถิติที่เคยพบกันมา เรายังเป็นรองนักแบดจากเดนมาร์กอยู่
ส่วนหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 5 ของรายการ อยู่กลุ่มเอ็น ร่วมกับ โซเนีย เชียะ จากมาเลเซีย และ ลอรา ซาโรซี จากฮังการี ขณะที่ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ อยู่กลุ่มดี ร่วมกับ คริสติน คูบา จากเอสโตเนีย, ดาเนียลา มาซีส จากเปรู โดยทั้งคู่ น่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย
โดยรัชนก ในรอบ 16 คนสุดท้ายคาดว่าน่าจะพบกับ เกรกอเรีย มาริสก้า ตุนจุง ดาวรุ่งจากอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมารัชนก สามารถปราบอินโดนีเซียคนนี้มาได้ตลอด โอกาสที่เราจะเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย มีค่อนข้างสูง และในรอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุด รัชนก จะพบกับ ไท่ ซือ อิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ซึ่งทั้งคู่มีสถิติการพบกัน ค่อนข้างสูสี ซึ่งเชื่อว่า รัชนก จะผ่านรอบนี้ได้ ทำให้โอกาสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ มีสูง
ขณะที่ บุศนันนท์ ในรอบ 16 คนสุดท้าย ถูกจับฉลากอยู่สายบน ซึ่งต้องมาพบกับ อัน เซ ยอง ดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ มืออันดับ 8 ของโลก คู่นี้ยังไม่เคยพบกันมาก่อน จากฟอร์มการเล่นล่าสุดของทั้งคู่ ต้องถือว่าขณะนี้ต่างก็กำลังอยู่ในฟอรม์ที่ทำผลงานดีที่สุด โอกาสของ บุศนันทน์ ที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย 50-50
หญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ มือวางอันดับ 9 ของรายการ อยู่กลุ่มดี ร่วมกับ เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการจากจีน, คิม โซยอง กับ คอง ฮียอง จากเกาหลีใต้ และ กาเบลลา สโตวา กับ สเตฟานี สโตวา จากบัลแกเรีย
ทั้งนี้จากการเปรียบเทียบทั้ง 4 กลุ่ม หญิงคู่ไทย อยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ กลุ่มที่หนักที่สุด แต่ว่าคู่ต่อสู้ในสายไม่ว่าจะเป็น คิม โซ ยอง กับ คอง ฮียอง จากเกาหลีใต้ หรือ 2 พี่น้อง สโตวา จากบัลแกเรีย หญิงคู่ไทย ก็เคยพิชิตมาได้แล้ว ดังนั้น โอกาสเข้ารอบ 2 ของหญิงคู่ไทย ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน โดยหญิงคู่ไทย ขณะนี้ซ้อมหนักมากและมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างสูงที่จะสร้างผลงานในโอลิมปิกครั้งนี้ให้ดีที่สุด
และ คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ ทอม กิกคูล กับ เดลไพล์ เดลรู จากฝรั่งเศส, มาคัส เอลลิส กับ ลอร์เรน สมิธ จากสหราชอาณาจักร และ โจฮัว ฮูร์เบิร์ต ยู่ กับ โจไพล์ หวู่ จากแคนาดา
ในประเภทคู่ผสม จากรายชื่อนักกีฬาที่อยู่ในกลุ่ม คู่ผสมไทย มีโอกาส ดีมากที่จะเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายเป็นอันดับ 1 ในสาย และไปลุ้นการจับฉลากในรอบ 8 คนสุดท้ายว่าจะไปเจอนักกีฬาจากชาติใด ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้น โอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัล ก็มีความเป็นไปได้สูง
“มั่นใจได้ว่า คู่ผสมไทย น่าจะผ่านเข้าเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย โดยที่ในประเภทคู่ กฎการแข่งขันจะต้องจับฉลากว่าใครจะพบกับใคร โดยที่เราเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม ก็จะจับฉลากรอพบอันดับ 2 ของกลุ่มที่เหลือ โอกาสที่คู่ผสมไทย จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เพื่อเข้าไปลุ้นเหรียญรางวัลก็มีค่อนข้างสูง” คุณหญิงปัทมา กล่าว