โรเมลู ลูกากู ซัดปิดกล่อง ช่วย "เบลเยียม" เอาชนะ ฟินแลนด์ ไปแบบนิ่มๆ 2-0 เก็บชัย 3 แมตช์รวด จบแชมป์กลุ่มทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2564 เป็นเกมการแข่งขันนัดที่สามในกลุ่ม B ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม ฟินแลนด์ ลงสนามพบกับ เบลเยียม
ฟินแลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ มาร์คคู คาเนร์ว่า ชนะมา 1 นัด และแพ้มา 1 นัด โดยพวกเขายังมีลุ้นเข้ารอบต่อไปขอแค่เพียงเสมอกับ เบลเยียม ให้ได้เป็นอย่างน้อย เกมนี้นำทัพมาโดย ตีมู ปุ๊กกี, โจเอล โปห์ยานปาโล, เกล็น กามาร่า
ด้าน เบลเยียม ของกุนซือโรแบร์โต มาร์ติเนซ เก็บชัยมา 2 เกมรวด ซึ่งหากเกมนี้พวกเขาไม่แพ้ จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ในฐานะแชมป์ของกลุ่มทันที นำทัพมาโดย เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, เอเด็น อาซาร์
เกมในครึ่งเวลาแรก แม้เบลเยียมจะพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง แต่เกมรับของ ฟินแลนด์ ยังเล่นกันอย่างมีระเบียบวินัย ยันเสมอในครึ่งเวลาแรกเอาไว้แบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังถึงแม้เบลเยียมจะครองเกมได้เหนือกว่า แต่ไม่ได้เร่งเกมเท่าที่ควร กลายเป็นฟินแลนด์ที่มีโอกาสลุ้นประตูจากจังหวะโต้กลับ แต่ยังทำได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น
นาทีที่ 65 เบลเยียม เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายคิลเลอร์พาสให้ โรเมลู ลูกากู ซัดหนีมือนายทวารฟินแลนด์เข้าไป แต่เมื่อเช็ค VAR แล้วเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน สกอร์ยัง 0-0
แต่แล้วนาทีที่ 74 เบลเยียม ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะลูกเตะมุม เควิน เดอ บรอยน์ เปิดให้โธมัส แฟร์มาเล่น โหม่งบอลไปชนเสา แต่กระดอนไปโดนมือ ลูคัส ฮาราเดคกี ผู้รักษาประตูของฟินแลนด์ เข้าประตูตัวเอง
นาทีที่ 81 เบลเยียม หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายให้ โรเมลู ลูกากู จับบอลแล้วพลิกตัวยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ นายทวารฟินแลนด์ได้แค่ยืนมอง
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที เบลเยียม เอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 ทำให้พวกเขาเก็บชัย 3 นัดรวด เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม B ส่วน ฟินแลนด์ ต้องไปลุ้นเป็นหนึ่งในสี่ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ซึ่งต้องรอลุ้นผลจากกลุ่มอื่นๆ
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮาราเดคกี (GK), จูน่า ตอยวิโอ, เปาลัส อารราจูรี, ดาเนียล โอเชาก์เนสซี, จุ๊กกา ไรตาล่า, โรบิน ล็อด, คิม สปาร์ฟ, เกล็น กามาร่า, เจเร่ ยูโรเน่น, โจเอล โปห์ยานปาโล, ตีมู ปุ๊กกี
เบลเยียม : ติโบต์ กูร์ตัวส์ (GK), เจสัน เดนาเยอร์, เดดริค โบยาต้า, โธมัส แฟร์มาเล่น, เลอันโดร ทรุสซาร์, อาเซล วิตเซล, เควิน เดอ บรอยน์, นาเซอร์ ชาดลี, เยเรมี โดกู, เอเด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู
