เดนเซล ดุมฟรีส์ แบ็กขวาตัวเก่ง สวมบทฮีโร่ช่วยให้ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เฉือนชนะ ยูเครน ไปแบบสุดมัน 3-2 เก็บสามคะแนนประเดิมยูโร 2020 แบบหืดจับ
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 คู่ที่่สุดท้าย เป็นเกมในกลุ่ม C ที่สนามโยฮันน์ ครัฟฟ์ อารีน่า เป็นการเจอกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์ ทีมเจ้าภาพ พบกับ ยูเครน
“อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของอดีตแข้งระดับตำนาน อย่าง แฟรงค์ เดอ บัวร์ ได้โอกาสลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในบ้านของตัวเอง เกมนี้นำทัพมาโดย 2 กองหน้า อย่าง เมมฟิส เดปาย และวูท เวกฮอร์สต์ โดยมี จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม อดีตนักเตะลิเวอร์พูล สวมปลอกแขนกัปตันทีมคุมเกมในแดนกลางรวมกับ แฟรงกี เดอ ยอง
ขณะที่ ยูเครน ภายใต้การคุมทีมของอดีตศูนย์หน้าจอมถล่มประตู อย่าง อังเดรย์ เชฟเชนโก้ นำทัพมาโดย อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก ดาวเตะจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด, รุสแลน มาลินอฟสกี ดาวเตะฟอร์มแรงจากทีมอตาลันตา รวมไปถึง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก มิดฟิลด์ตัวรับจากแมนฯ ซิตี
เกมในครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกแลกกันอย่างสนุก เป็นเนเธอร์แลนด์ ที่ครองเกมบุกได้มากกว่า แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่คมพอ ขณะที่ ยูเครน ได้โอกาสสวนกลับมาน่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เช่นกัน หมดเวลาการแข่งขัน 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง เนเธอร์แลนด์ ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 52 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เดนเซล ดุมฟรีส์ หลุดมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดยัดเข้ากลาง จอร์จ บุสชาน นายทวารยูเครนปัดบอลได้ดีมาเข้าทาง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสุดสวย
นาทีที่ 59 เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ เดนเซล ดุมฟรีส์ ได้หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แนวรับยูเครนพยายามสกัดแต่บอลเด้งไปเข้าทาง วูท เวกฮอร์สต์ ซัดเข้าไป
นาทีที่ 75 ยูเครน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตีไล่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก กัปตันทีมตัวเก๋า ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ค่อยเลี้ยงจี้แนวรับเจ้าถิ่น ก่อนล็อคเข้ามากลางประตูแล้วปั่นโค้งๆ บอลหนีมือ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เข้าไปอย่างสวยสดงดงาม
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 79 ยูเครน ที่กำลังได้ใจ มาได้ประตูไล่ตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะลูกฟรีคิก รุสแลน มาลินอฟสกี เปิดด้วยซ้ายบอลโค้งเข้าในเขตโทษมาให้ โรมัน ยาเรมชุค ขึ้นโขกหนีมือนายทวารเนเธอร์แลนด์เข้าไป
นาทีที่ 85 หลังโดนไล่ตีเสมอ เนเธอร์แลนด์ จึงได้เปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่องก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 จากจังหวะการเปิดทางกราบซ้ายของ นาธาน อาเก้ มาให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ วิ่งมาโหม่งหนีมือ จอร์จ บุสชาน เข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เนเธอร์แลนด์ เฉือนชนะ ยูเครน ไปแบบสุดมัน 3-2 เก็บสามคะแนนประเดิมยูโร 2020 รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม C มีแต้มเท่ากับ ออสเตรีย แต่ลูกได้เสียเป็นรอง ขณะที่ ยูเครน รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก (GK), เยอร์เรียน ทิมเบอร์, สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, ดาเลย์ บลินด์, เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เทน เดอ รูน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, แฟรงกี เดอ ยอง, แพทริค ฟาน อันโฮลต์, เมมฟิส เดปาย, วูท เวกฮอร์สต์
ยูเครน: จอร์จ บุสชาน (GK), อเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลย่า ซาบาร์นยี, มิโคลา มัตวิเยนโก, วิทาลลี มิโคลเลนโก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, รุสแลน มาลินอฟสกี, เซร์เฮย์ ซีดอร์ชุค, โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ, อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก, โรมัน ยาเรมชุค