จากกรณี นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย จับมือ "มร.ทิม" นายทิมาธี ธรรมาชีวะ หัวหน้าค่ายมวยไทย "ศิษย์สองพี่น้อง" พร้อม จับ 4 นักมวยยักษ์ดีกรีระดับแชมเปียน มารับใช้ชาติ ด้วยการปรับเชิง เป็น นักกีฬาไปแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ เวียดนาม เป็นเจ้าภาพปลายปีนี้ (21 พ.ย.-2 ธ.ค.64)
ล่าสุดเมื่อ 11 มิ.ย.64 มร.ทิม หัวหน้าค่ายมวยไทยชื่อดังเผยว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และต้องขอบคุณสมาคมกีฬาปันจักสีลัตฯ เป็นอย่างยิ่ง ที่หันมาให้ความสำคัญกับค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง และตัดสินใจเลือกนักษ์มวยไทยทั้ง 4 รายของตนไปรับใช้ชาติสู้ศึกซีเกมส์ นอกจากนั้นยังปรับเปลี่ยนสถานที่เก็บตัว ปันจักสีลัตทีมชาติไทย จากยะลามาเป็นที่ค่ายศิษย์สองพี่น้องแห่งนี้ ซึ่งถือว่า มีอุปกรณ์การฟิตซ้อมต่างๆ ได้มาตรฐานครบครัน ต้องขอขอบคุณ นายกสมาคมฯ และคณะกรรมการที่ ให้ความไว้วางใจ รวมทั้งขอบคุณ อ.ยงศักดิ์ ณ สงขลา กรรมการมวยผู้อาวุโส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานอีกด้วย
ในส่วนของ 4 นักมวยไทยรุ่นยักษ์ แต่ละรายที่จะได้เป็นตัวแทนทีมชาติ มีดังนี้ "เจ้าเบ๊นซ์" ซุปเปอร์เบ๊นซ์ ว.แสงเทพ อดีตแชมป์ WBCมวยไทย รุ่นเฮฟวี่เวต จะลงแข่งในรุ่น 95 กก. เผย "ได้เป็นตัวแทนต่อยรุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวต ยอมรับว่า ประหม่านิดหน่อย เพราะยังไม่เคยเห็นและคุ้นเคยกับ การแข่งขันปันจักสีลัต แต่มั่นใจว่า จะมีเวลาเรียนรู้ได้ทัน และด้วยประสบการณ์กระดูกจากการชกมวยไทย ตั้งใจว่า จะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด และตั้งเป้าถึงโอกาสลุ้นเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้"
ส่วน "เจ้าจุ๊น" ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง รุ่น 85 กก. ผู้เคยตระเวณชกมาทั่วโลกทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย กล่าวว่า ได้มาแข่งปันจักสีลัตครั้งนี้ คิดว่า การปรับตัวคงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะโดยพื้นฐานส่วนตัวจากมวยไทยคงเรียนรู้ได้เร็ว การได้กลับมาแข่งขันอีกครั้ง ซ้ำยังได้เป็นตัวแทนทีมชาติอีกด้วย ถือเป็นเกียรติแก่ตัวเอง และครอบครัวอย่างยิ่ง ซึ่งตนจะพยายามคว้าเหรียญรางวัลติดมือกลับมาให้ได้
ขณะที่ รุ่งราวี ศิษย์สองพี่น้อง ลงแข่งในพิกัด 80 กก. ยอมรับว่า ถูกเรียกตัวมาอย่างกระทันหันรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย แต่พอรู้รายละเอียด ว่าต้องแข่งปันจักสีลัตก็คิดว่า คงไม่น่าลำบากใจสักเท่าไหร่ เพราะมีเวลาได้เรียนรู้กติกาปรับตัวพอสมควร ตนเองยิ่งดีใจที่จะได้ไปแข่งซีเกมส์ ขอพี่น้องชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยด้วย และตนจะพยายามคว้าเหรียญทองกลับมาให้ได้เช่นกัน
ส่วน สะท้านฟ้า ศิษย์สองพี่น้อง อดีตแชมป์มวยรอบ อีซูซุ จะลงแข่งในรุ่น 75 กก. กล่าวว่า ผู้ใหญ่คงเล็งเห็นแล้วว่า การชกในรุ่นใหญ่ๆเหล่านี้ การนำนักมวยไทยมาปรับเชิงน่าจะเป็นผลดี เวลาที่เหลือจากนี้ เราต้องเร่งเรียนรู้โดยเร็ว ตอนนี้ เริ่มซ้อมเบาๆกันมาได้พักหนึ่งแล้ว จากนี้ไปก็คงจะเร่งซ้อมกันให้มากขึ้น มั่นใจว่า ประสบการณ์มวยไทยจะช่วยให้เอาชนะคู่แข่งในซีเกมส์ครั้งนี้ มีเหรียญติดมือกลับบ้านได้ ซึ่งตนตั้งเป้าว่าจะต้องได้ถึงเหรียญทอง
สำหรับ กีฬาปันจักสีลัต ในซีเกมส์ครั้งนี้ สมาคมฯ จะส่ง นักกีฬาทีมชาติไทย ไปแข่งทั้งสิ้น ชาย 8 รุ่น หญิง 2 รุ่น จากการชิงชัยทั้งหมด 16 เหรียญทอง ประเภทลีลา 6 ทอง ประเภทต่อสู้ 10 ทอง