xs
xsm
sm
md
lg

บอกลา "นิชิโนะ" ได้หรือยัง? / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

การที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เลือกที่จะจ่ายค่าจ้างระดับสูง เพื่อจ้างโค้ชระดับ อากิระ นิชิโนะ ผู้มีดีกรีสูงส่ง สร้างชื่อมาทั้งระดับสโมสรในศึกเจลีก และระดับฟุตบอลโลก ในฐานะกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าความทุ่มเทระดับนี้ ย่อมมาพร้อมกับความคาดหวังเรื่องผลงานของทัพ "ช้างศึก" ในรายการต่างๆ

แต่ผลงานล่าสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี เราลงสนาม 2 นัด เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 และ แพ้ ยูเออี 1-3 เราหมดสิทธิ์เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย รายการนี้แน่นอนแล้ว แต่โปรแกรมนัดสุดท้ายกับ มาเลเซีย ก็ยังสำคัญและทิ้งไม่ได้ เพราะหากเรายึดอันดับ 3 ของกลุ่มได้ก็จะการันตีโควต้าแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

หากมองที่ทีมชาติไทย แน่นอนว่าเราสามารถหยิบยกปัญหาของทีมชุดนี้มาถกกันได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโควิด-19 ทำให้โปรแกรมในลีกมันรวน ทำให้เราไม่ได้เล่นในบ้านและต้องลงสนามแข่งสนามกลาง ทำให้เราไม่มีผู้เล่นอย่าง ธีราทร บุญมาทัน มาร่วมทีม เพราะปัญหาการเดินทาง หรือปัญหาอาการบาดเจ็บที่ขโมยตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปจากทีมชาติ รวมถึงความฟิตที่ทำเอา ธีรศิลป์ แดงดา ไม่พร้อมไปร่วมทีม และอีกเยอะแยะมากมายที่จะยกมาได้ แต่...ปัญหาแบบนี้เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็เจอด้วยกันทั้งนั้น

หากใครจำกันได้ตอนที่ อากิระ นิชิโนะ รับงานใหม่ๆ แฟนบอลต่างมีความคาดหวังถึงผลงานที่ดีขึ้น เนื่องจากชื่อเสียง และผลงานที่จับต้องได้ และช่วงแรก เหมือนว่าผลงานทัพ "ช้างศึก" จะดูดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่เก็บได้ถึง 7 แต้มจาก 3 นัด (เสมอ เวียดนาม 0-0, ชนะ อินโดนีเซีย 3-0 และ ชนะ ยูเออี 2-1) เมื่อปี 2019
แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม เมื่อ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ลาออกจากการเป็นผู้ช่วยแล้วไปคุมทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แล้วผลงานดิ่งลง สอดคล้องกับที่ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล อดีตประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมฟุตบอลฯ พูดว่าเขามาคนเดียวไม่มีทีมงาน คิดว่าไม่น่ารอด (แต่ก็ยังจ้างมาทำงาน ... ฮา)

เมื่อดูแล้วผลงานของ นิชิโนะ คุมทีมลงเล่นหลายรายการ ส่วนตัวดูแล้วน่าพอใจอยู่รายการเดียว คือ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมก่อนแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-1 ส่วนรายการอื่นก็ไม่น่าจดจำอะไร ไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ 2019 (ตกรอบแรก) หรือฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก (ตกรอบแบ่งกลุ่ม)

เอาจริงๆ นะครับ ผมเชื่อแหละว่าไม่มีใครคาดหวังว่าทีมชาติไทย จะไปถึงรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ในรอบคัดเลือกรอบนี้หรอก เพียงแต่ว่าเขาคาดหวังว่าการได้กุนซือระดับนี้มาคุมทีม อย่างน้อยๆ มันก็น่าจะดีกว่าที่ "โค้ชซิโก้" เคยทำ หรืออย่างน้อยๆ ได้เท่ากันก็ยังพอกล้อมแกล้มให้ใครบางคนไม่อายมากนัก แต่พอทำได้ไม่เท่าที่โค้ชไทยเคยทำได้ทั้งที่ได้ข่าวว่าค่าจ้างปีละถึง 30 ล้านบาท ก็น่าจะถึงเวลาที่เรากลับมาหาโค้ชไทยเก่งๆ และเข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอลบ้านเรามากกว่า...
กำลังโหลดความคิดเห็น