กลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าสื่อกีฬานั่นก็คือการออกมาประกาศยกเลิกสัญญากับ "เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์" ในการถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ "เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์" ร่วมกับพันธมิตร อย่าง Eleven Sport เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในการถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ในสัญญาระยะยาว 8 ปีเต็ม ระหว่าง 2021-2028 มูลค่ารวมสูงสุดในประวัติศาสตร์ 12,000 ล้านบาท
"เซ้นส์" เริ่มเข้ามาดูแลในช่วงรอยต่อของฤดูกาล 2020/21 ควบคุมการถ่ายทอดสดผ่านช่องฟรีทีวีในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นที่ผ่านมา และก็ดูเหมือนว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีคอนเทนต์เกี่ยวกับฟุตบอลไทยโผล่มาให้ได้เห็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรายการ "เตะสู้ฝัน" หรือนำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังไทยหลายต่อหลายคนไปออกเกมโชว์ในสังกัด
เวลาผ่านไปไม่นาน "เซ้นส์" ยังไม่ได้เริ่มลุยโปรเจ็กต์ต่างๆ อย่างเต็มที่ด้วยซ้ำ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ออกมาประกาศแยกทางการถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยกับบริษัทนี้โดยทันที โดยชี้ว่าบริษัทดังกล่าวทำผิดข้อตกลงเรื่องสัญญา เนื่องจากส่งแบงค์การันตี ไม่ทันเดดไลน์ในวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่าก่อนหน้านี้ทั้งๆที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็รู้ทั้งรู้ว่า "เซ้นส์" ไม่ได้มีโปรไฟล์เรื่องการเงินที่ดีเท่าไหร่ แทนที่จะเลือกองค์กรใหญ่อย่าง "ทรูวิชั่นส์" เจ้าของลิขสิทธิ์เดิมให้เข้ามาบริหารต่อ แต่เป็นเพราะว่า "เซ้นส์" แสดงออกถือความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะพัฒนาวงการฟุตบอล มีการทำรายการมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ และเป็นผู้ยื่นข้อเสนอการประมูลที่มากกว่า ทรูฯ ถึงราว 3 ร้อยล้านบาทต่อปี ส.ลูกหนังไทย จึงต้องเลือก "เซ้นส์"
ในส่วนของการเซ็นสัญญาระยะยาว 8 ปีเต็ม ทางสมาคมฯ เคยให้เหตุผลเอาไว้ว่าต้องการให้เป็นเหมือนกับเจลีก และเอเอฟซี ที่สร้างความเสถียรภาพให้แก่วงการในระยะยาว จึงพร้อมที่จะหาผู้เข้ามาซื้อสิทธิ์ในลักษณะแบบนี้ แต่หลังจากเกิดปัญหาแยกทางกับ "เซ้นส์" ส.บอลไทย เริ่มที่ลังเลในเรื่องของสัญญาระยะยาว และในครั้งหน้าอาจพิจารณากลับไปเซ็นสัญญาระยะสั้น ราว 3-4 ปี เหมือนเดิม
แหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้ ระบุว่า "เซ้นส์" มีความพยายามที่จะขอลดค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยจากเดิมที่ต้องจ่ายราว 1,200 ล้านบาทต่อปี เป็น 800-900 ล้านบาทต่อปี ลดลงจากยอดที่ได้ตกลงกันไว้ราว 3-400 ล้านบาท เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เริ่มไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
จากการยกเลิกสัญญาดังกล่าวระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับ เซ้นส์ ถือเป็นแรงกระเพื่อมอย่างหนักที่ต่อยอดมาจากผลพวงของเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ฟุตบอลอาชีพของไทยมีปัญหากับเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเดิม และทำให้สภาพคล่องด้านการเงินที่ต้องนำมาจ่ายให้กับสโมสรมาชิกมีอันต้องล่าช้า ได้ไม่ครบตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้ในตอนแรก
สำหรับเรื่องเงินสนับสนุนการทำทีมจากสมาคมฯ บรรดาทีมใหญ่ๆ อาจดูไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขาอาจจะมีเงินทุนสำรองเอาไว้อยู่แล้ว แต่กับบรรดาทีมรากหญ้าทั้งหลาย ตั้งแต่ทีมเล็กๆ ในไทยลีก 2 ไล่ลงมาจนถึงทีมในระดับไทยลีก 3 ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
บางทีมอาจจะโชคดีหน่อยตรงที่มีเงินก้อนพอจะมาหมุนเวียนเพื่อทำทีมให้อยู่รอดต่อไปได้ แต่บางสโมสรเดินหน้าต่อไปไม่ไหว มีอันต้องโบกมือลาเส้นทางฟุตบอลอาชีพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งสมาคมฯ มาตัดงบในโครงการ FA Development ตรงนี้จะทำให้ทีมไทยลีก 1 เงินหายไป 5 ล้านบาท, ไทยลีก 2 และ 3 หายไปทีมละ 1 ล้านบาท ยังไม่รวมเรื่องปัญหาผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
และปัญหาที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ยังคงเคว้ง ฟุตบอลอาชีพของไทยใกล้จะเปิดฉากซีซั่นใหม่ทุกขณะ แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่ได้คำตอบเรื่องผู้ที่จะเข้ามารับการถ่ายทอดสด ซึ่งส่งปัญหาไปถึงหลายๆ ทีมที่ต้องบากหน้าไปขอสปอนเซอร์เพื่อให้เข้ามาช่วยอุดหนุนสโมสร
ยิ่งมีข่าวว่าในฤดูกาลหน้า ไทยลีก 2 อาจไม่มีการถ่ายทอดสด บรรดาทีมในลีกรองต่างต้องดิ้นรนกันอย่างหนัก เพราะทุกวันนี้ก็ขอสปอนเซอร์กันยากอยู่แล้ว ยิ่งถ้าฤดูกาลหน้าไม่มีถ่ายทอดสดอีก จะยิ่งวุ่นกันไปใหญ่ การเจรจาเพื่อหาผู้สนับสนุนคงยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เหล่าสปอนเซอร์ทั้งหลายก็ต้องการความชัดเจนในลีกอาชีพของไทยเช่นกัน คงไม่มีใครจู่ๆ จะให้เงินไปใช้ โดยที่ไม่รู้อนาคตว่าจะได้อะไรกลับมาหรือไม่
สิ่งที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ควรเร่งทำ คือการให้คำตอบแก่สโมสรสมาชิกถึงเรื่องผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย จะเอาอย่างไร ใครจะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ จะกลับไปหาเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม อย่าง ทรูวิชั่นส์ หรือไม่ หรือทีมต่างๆจะได้ค่าตอบแทนเป็นมูลค่าเท่าไหร่ต่อปี สโมสรเขาจะได้วางแผนล่วงหน้ากันได้ เพราะอีกไม่ถึง 2 เดือนจะเปิดฤดูกาลใหม่กันแล้ว
เข้าใจดีว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อวงการลูกหนังอาชีพของไทย แต่ ณ ปัจจุบัน สถานการณ์หลายๆ ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ต้องรีบหาทางออกโดยเร็ว !!!
