ทำไม ชุนบุค จึงต้องการ ศศลักษณ์ เป็นพิเศษ... / แมวดำ

คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

ในที่สุดเราคนไทยก็จะได้เห็นผู้เล่นทีมชาติไทย คนที่ 2 ต่อจาก "เดอะ ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลลีกสูงสุดประเทศเกาหลีใต้ หรือ เคลีก หลังจากที่ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ยอดทีมแห่งแดนโสมตกลงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ดีลยืมตัว ศศลักษณ์ ไหประโคน ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน

จริงๆ ดีลนี้ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2021 ด้วย เนื่องจากมีข่าวจากสื่อเกาหลีใต้กระพือกันมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่า "พี" ศศลักษณ์ นั้นมีฟอร์มที่เจิดจ้าเข้าตาทีมงาน "กรีน วอริเออร์" แห่งเกาหลีใต้เอามากๆ แต่ปรากฎว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยากปล่อยตัวผู้เล่นหลังจบฤดูกาลศึกไทยลีกมากกว่า เพราะ ศศลักษณ์ ถือเป็นผู้เล่นที่ยืนได้แทบทุกตำแหน่ง และยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมไปแล้ว

แต่การปล่อยผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นอกจาก ศศลักษณ์ แล้ว ยังแยกทางกับ "มิ้ง" กรกช วิริยอุดมศิริ ผู้เล่นตำแหน่งเดียวกัน ในวัย 33 ปี ปิดฉากการค้าแข้งกับ "ปราสาทสายฟ้า" เป็นเวลา 5 ปี ออกไปอีกด้วย ทีนี้ก็มีคำถามตามมาว่าแล้วใครจะลงเล่นตำแหน่งนี้แทน ภาระหนักคงอยู่ที่ อเล็กซานเดร กาม่า เฮดโค้ช กับ เนวิน ชิดชอบ เฮดของเฮดโค้ช ที่จะต้องไปจัดการกันต่อ

สำหรับดีล ศศลักษณ์ สู่เคลีก นั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากที่นักเตะวัย 25 ปี จะได้ย้ายไปสัมผัสฟุตบอลอาชีพในระดับที่สูงขึ้นกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรที่ทีมดีกรีแชมป์เคลีก 8 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 4 สมัย, แชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, รองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และ รองแชมป์ เอเชียน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย ยังมี ปาร์ค จี ซอง ตำนานมิดฟิลด์ทีมชาตเกาหลีใต้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด นั่งแท่นตำแหน่งที่ปรึกษาสโมสรอีกด้วย

การได้ร่วมทีมที่จัดว่าเป็นนัมเบอร์วันแห่งเคลีก มีการตั้งคำถามพอสมควรว่าแล้ว ศศลักษณ์ จะได้ลงเล่นไหม เรื่องนี้พูดยากเพราะเป็นหน้าที่ของโค้ช แต่หากให้มองดูผู้เล่นปัจจุบันในตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ชุนบุค มี อี จู-ยอง วัย 28 ปี กับ ปาร์ค จิน-ซอง วัย 20 ปี สลับกันเล่น แถมบางนัดก็โยกคนอื่นมาแทน

โดยทั้งคู่ต่างก็เคยผ่านการติดทีมชาติเกาหลีใต้มาแล้ว โดย อี จู-ยอง เคยติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 3 นัด ขณะที่ ปาร์ค จิน-ซอง เคยติดทีมชาติชุด ยู 17 ไปแล้ว 5 นัด แต่ต่างก็โดนโค้ชสลับกันลงเล่น โดยคนแรกได้ลงในลีก 6 นัด ส่วนคนหลังน้อยหน่อย เล่นในลีก 4 นัด จากการแข่งขันทั้งหมด 17 นัดในเคลีก

ขณะที่ผลงานในเคลีก 6 นัดหลังสุด พลพรรค "กรีน วอริเออร์" ไม่พบกับชัยชนะเลย บวกกับการที่ 2 ผู้เล่นแบ็กซ้ายธรรมชาติของทีมต่างก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงอย่างถาวร ข้อนี้น่าจะพอบอกได้ว่าทำไม ชุนบุค ต้องการตัว ศศลักษณ์ เป็นอย่างยิ่ง และน่าจะชัดเจนว่านักเตะไทยคนนี้มีแนวโน้มจะได้ลงเล่นสูง เพราะเขายังไม่เจอผู้เล่นตัวจริงตำแหน่งนี้นั่นเอง