ทัพนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์สาวไทย เดินทางถึงโคลอมเบีย เรียบร้อยแล้ว เตรียมลงทำศึก “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” เก็บคะแนนสะสมเพิ่ม เพื่อให้ได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ด้าน “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” ลงชิงชัยจักรยานประเภทลู่ที่เยอรมนี คว้าที่ 3 รายการคีริน มาครอง ยังรั้งอันดับ 2 ของโลกต่อไป โดยมีคะแนนตามหลัง ยูตะ วากาโมโต นักปั่นชาวญี่ปุ่น มืออันดับ 1 โลก แค่ 300 กว่าคะแนนเท่านั้น
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจาก “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยว่า คณะนักปั่นทีมชาติไทยที่ประกอบด้วย “น้องฟ้า” ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ “น้องมิ้ง” วรัญญา แซ่แต้ และ นายจีระพล ปัทมินทร์เป็นช่างประจำทีม ได้เดินทางอย่างมาราธอนประมาณ 24 ชั่วโมง ถึงกรุงโบโกตา เมืองหลวงของประเทศโคลอมเบีย เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง
พลเอกเดชา กล่าวว่า ล่าสุด ทีมชาติไทยมีโอกาสได้ลงฝึกซ้อมที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง ในกรุงโบโกตา ที่จะใช้เป็นสนามการแข่งขันรายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” สนามที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นสองสนามสุดท้ายที่จะใช้คะแนนสะสมนำมาคิดคะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยทีมชาติไทยได้เวลาฝึกซ้อมในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม หรือตรงกับเวลาเมืองไทยประมาณ 02.00 น. เช้ามืดวันอังคารที่ 25 พฤษภาคม
“โค้ชอัถรรายงานมาว่า การฝึกซ้อมเป็นไปด้วยดี โดยในวันแรกของการฝึกซ้อมเน้นไปที่การเก็บรายละเอียดของสนามเพื่อนำไปวางแทคติกการแข่งขัน แต่ก็มีปัญหาเล็กน้อยที่นักกีฬาทั้ง ชุติกาญจน์ และ วรัญญา ยังต้องปรับระบบการหายใจ เนื่องจากสภาพอากาศในกรุงโบโกตา มีปริมาณออกซิเจนในอากาศเบาบางกว่าที่เมืองไทย เพราะตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,550 เมตร หรือเทียบเท่ากับความสูงของยอดดอยอินทนนท์ แต่จากการที่คณะนักปั่นไทยเดินทางไปยังประเทศโคลอมเบียตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีเวลาเพียงพอที่นักกีฬาไทยจะสามารถปรับตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเวลาหรือระบบหายใจ” พลเอกเดชา กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับเมื่อทีมชาติไทยเดินทางไปถึงโคลอมเบีย เอกสารของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระบุว่า ในประเภทหญิง มีนักกีฬาสมัครเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 28 คนจาก 13 ชาติ ซึ่งไทยเรามีเพียง เอลเก แวนฮูฟ จากประเทศเบลเยี่ยม เป็นนักปั่นที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากเบลเยี่ยมมีอันดับในการคัดโอลิมปิก ตามหลังไทยอยู่ 7 คะแนน ดังนั้น เป้าหมายของนักปั่นสาวไทยก็คือการเอาชนะนักปั่นเบลเยี่ยมให้ได้ เพื่อโอกาสในการลุ้นโควต้าโอลิมปิกเกมส์ และในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวดีว่านักปั่นจากเยอรมนี ที่มีคะแนนนำไทยอยู่เพียง 1 คะแนน ไม่ส่งนักปั่นหญิงเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้ ดังนั้นหากสองสาวไทยเก็บคะแนนได้ อันดับคัดโอลิมปิกก็จะแซงเยอรมนีขึ้นไปอย่างแน่นอน ส่งผลให้โอกาสในการคว้าโควต้าโอลิมปิกเกมส์ สดใสยิ่งขึ้น
“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ก็ได้รับรายงานมาจาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองคีริน กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมระยะยาวอยู่กับศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล่าสุด จาย ได้เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ รายการ บาห์เนน ทัวร์นี่ ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดย จาย ลงชิงชัย 2 รายการ ประกอบด้วยรายการสปรินต์ เมื่อนวันที่ 23 พฤษภาคม ผลปรากฏว่า จาย ทำเวลาในรอบคัดเลือก 10.660 วินาที และผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ไปแพ้ ทีจอน ฟาเจ จากประเทศซูรินาม ต้องไปชิงเหรียญทองแดงกับ เควซี่ บราวน์ จากประเทศตรินิแดดและโตเบโก ปรากฏว่า จาย แพ้ไปหวุดหวิด 1-2 เที่ยว ได้อันดับ 4 ส่วนวันอาทิตย์ ลงแข่งขันรายการคีริน ซึ่ง จาย ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ผลปรากฏว่าได้อันดับ 3 ส่วนแชมป์ตกเป็นของ พอล นิโคลัส จากตรินิแดดและโตเบโก
“สำหรับผลการแข่งขันทั้ง 2 รายการ เป็นที่น่าพอใจเนื่องจากเป้าหมายอยู่ที่การรักษาอันดับโลกทั้งสปรินต์และคีริน เพื่อควอลิฟายเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2021” ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ระหว่างวันที่ 13-17 ตุลาคม โดยในประเภทสปรินต์ จาย ขยับจากอันดับ 18 ขึ้นมาอยู่อันดับ 12 ในขณะที่อันดับคีริน ยังคงอยู่ในอันดับ 2 ของโลก แต่ก็ขยับเข้าใกล้ ยูตะ วากาโมโต นักปั่นชาวญี่ปุ่น มืออันดับ 1 โลก เหลือช่วงห่างเพียง 300 กว่าคะแนนเท่านั้น เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่จนถึงช่วงตัดโควต้า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ จาย น่าจะผ่านควอลิฟายทั้งในประเภทคีรินและสปรินต์” พลเอกเดชา กล่าว.