แจ๊ค มิลเลอร์ นักบิดจอมฝีมือของ ดูคาติ ผงาดคว้าแชมป์ 2 สนามติดต่อกัน หลังทำความเร็วฝ่าสายฝนที่ฝรั่งเศส ก่อนซิวโทรฟี เฟรนช์ กรังด์ ปรีซ์ แบบสุดระทึก
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 5 ของปี รายการ "เฟรนช์ กรังด์ ปรีซ์" ณ สนาม เลอ มังส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส โดยวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นรอบชิงชนะเลิศ ดวลความเร็วทั้งหมด 27 รอบสนาม
สิ้นสัญญาณไฟ ความมันมาตั้งแต่เริ่มเมื่อ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ แห่งมอนสเตอร์ เอเนอร์จี ยามาฮ่า กับ แจ๊ค มิลเลอร์ จากดูคาติ ขับเคี่ยวชิงตำแหน่งผู้นำอย่างสนุก แต่เมื่อผ่านไป 4 รอบ ฝนตกหนัก นักบิดทยอยเข้ามาเปลี่ยนรถที่ใช้ยางเปียกออกไปแข่งแทน
และเมื่อเปลี่ยนรถ มาร์ค มาร์เกซ ซูเปอร์สตาร์ของ เรปโซล ฮอนด้า ช่วงชิงจังหวะเปลี่ยนรถเร็วกว่าเพื่อนขึ้นมานำแทน แต่พอถึงรอบที่ 9 เกิดรถสะบัดกลิ้งหลุดแทร็กกระทันหัน เปิดช่องให้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ แซงขึ้นมาเป็นผู้นำแทน สลับกับ แจ๊ค มิลเลอร์ ที่สอดแทรกขึ้นมาได้เช่นกัน
มิลเลอร์ รักษาตำแหน่งผู้นำไปตลอดเรซ ก่อนพุ่งเข้าเส้นชัยสำเร็จ เวลา 47 นาที 25.473 วินาที ส่วนอันดับ 2 เป็น โยฮัน ซาร์โก จากปราแมค เรซซิ่ง และอันดับ 3 เป็น ฟาบิโอ ควาร์ตาราโร่ ของ มอนสเตอร์ เอเนอร์จี ยามาฮ่า กระนั้นเจ้าตัวก็เป็นผู้นำบนตารางชิงแชมป์โลก หลังเก็บเพิ่มรวมเป็น 80 แต้ม
สำหรับศึก โมโตจีพี จะหยุดพัก 1 สัปดาห์ ก่อนกลับมาสู้กันต่อกับสนามที่ 6 ของปี รายการ อิตาเลียนกรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม มูเจลโล่ เซอร์กิต ประเทศอิตาลี วันที่ 18-30 พฤษภาคมนี้