คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ แม้จะได้ชื่อว่า “เน็ตไอดอล แห่งวงการมวยไทย" ยอดมวยเก่งที่หาตัวจับยากในปัจจุบัน แต่ “ตะวันฉาย” ยอมรับว่าเขาต้องอดทนกับคำประนามหยามเหยียดจากบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดไม่เว้นแต่ละวัน
โลกโซเชียลทุกวันนี้อำนาจสื่ออยู่ในมือของทุกคน ใคร ๆ ก็สามารถแสดงออกความคิดเห็นส่วนตัวออกสู่สาธารณะได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ย่อมนำมาซึ่งการจรรโลงสังคม ในทางกลับกัน สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่เกินขอบเขตของคำว่ามารยาทและจริยธรรมก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมได้
“ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่งเป็นนักมวยคนหนึ่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จในวงการมวยไทยตั้งแต่อายุยังน้อย นอกจากฝีมือที่โดดเด่นแล้ว เขายังรู้จักใช้ประโยชน์จากพื้นที่โซเชียลมีเดีย ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้ติดตามหลายแสนแอคเคาต์จากหลากหลายช่องทาง
เมื่อโซเชียลมีเดียมีทั้งประโยชน์และโทษ ตะวันฉาย เองนอกจากจะต้องประมือกับคู่ปรับบนสังเวียน ก็ยังต้องรับมือกับบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลาย และในฐานะบุคคลสาธารณะเขาก็มีวิธีจัดการเรื่องนี้ได้ดีทีเดียว
“โซเชียลมีเดียมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ เมื่อมีคนเข้าถึงตัวเราได้ง่ายขึ้น หากเราทำอะไรไม่ดีหรือไม่ถูกใจ เช่น ต่อยแพ้ ก็จะมีคนเข้ามาทั้งให้กำลังใจ และตำหนิเราได้ทันทีเหมือนกัน ผมเจอคำตำหนิหลากหลายรูปแบบ พวกเกรียนก็เยอะ และแบบหยาบคายก็มี ตอนแรกผมรู้สึกโกรธคนที่เข้ามาตำหนิอย่างไม่มีเหตุผล แต่ผมเลือกที่จะนิ่งและพยายามไม่สนใจครับ เขามองจากภายนอก ไม่รู้ว่าผมต้องซ้อมหนักแค่ไหน หรือทำอะไรบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้ ส่วนคนที่เข้ามาให้กำลังใจและคำแนะนำดี ๆ ผมก็น้อมรับและนำจุดบกพร่องไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาฝีมือการชกให้ดีขึ้นต่อ ๆ ไปครับ”
ยิ่งดังก็ยิ่งมีคนจับจ้องโดยเฉพาะตอนนี้ ตะวันฉาย กำลังจะสร้างชื่อเสียงไปไกลกว่าเดิมบนเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งเขากำลังประเดิมศึกแรก ONE: DANGAL ในวันเสาร์ที่ 15 พ.ค.นี้ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ได้รับคำชมหรือติเตียน มาถึงจุดนี้เจ้าตัวก็พร้อมเดินหน้าสู้!