หลังจากรอคอยมานาน 1,015 วัน ในที่สุด "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตโปรกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก ก็ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ รายการที่ 11 ในการเล่นกอล์ฟอาชีพ จากการแข่งขัน "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์" ที่สนามสยาม คันทรีคลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส จ.ชลบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ถือเป็นความสำเร็จที่มีความหมายกับโปรเมในหลายๆ แง่มุม เพราะนอกจากจะเป็นแชมป์แรกหลังห่างหายไปนานเกือบ 3 ปีเต็มแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่นักกอล์ฟไทยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการนี้ในบ้านของตัวเอง หลังจากจัดการแข่งขันมานานถึง 14 ปี
โปรเมร่วมแข่งขันรายการนี้มาตั้งแต่ปี 2007 ขณะอายุเพียง 11 ขวบ และเคยเข้าใกล้โอกาสคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์หนแรกในชีวิตเมื่อปี 2013 แต่กลับพลาดเสียดับเบิลโบกี้ในการเล่นหลุม 18 วันสุดท้าย ทำให้จากที่นำอยู่ 2 สโตรก กลับกลายเป็นความพ่ายแพ้ต่อปาร์ก อินบี โปรมือ 1 ของโลกเวลานั้นแทน
ด้วยหลากหลายเหตุผลข้างต้นจึงเป็นที่มาของน้ำตาและความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาอย่างต่อเนื่องทันทีที่การันตีแชมป์แน่นอนแล้ว
โปรเมบอกว่า ตั้งแต่พลาดแชมป์เมื่อปี 2013 ก็ตั้งเป้าหมายกับตัวเองเอาไว้ว่า อยากจะคว้าแชมป์ที่นี่ให้ได้ในสักวันหนึ่ง
อดีตโปรมือ 1 ของโลกยอมรับด้วยว่า ช่วงที่ผลงานไม่ค่อยดีใน 2 ฤดูกาลหลังที่ไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก และเคยพูดกับโค้ชจิตวิทยา คือ เพีย นิลส์สัน และลีนน์ แมร์ริออตต์ แห่งทีม "วิชั่น 54" นับครั้งไม่ถ้วนว่า อยากพัก อยากหยุดเล่นไปสักระยะหนึ่ง หรือไม่ก็เลิกเล่นไปเลย อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านั้นเป็นเหมือนการระบายความอัดอั้นตันใจมากกว่าจะหมายความตามนั้นจริงๆ
เพราะที่สุดแล้ว ถึงจะมีวันที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ก็ยังมีกำลังใจมากมายจากคนรอบข้าง ทั้งพี่สาว "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล เพื่อน ครอบครัว โค้ช แคดดี้ และคนอีกกลุ่มที่โปรเมให้ความสำคัญ และเป็นเหมือนสิ่งเตือนใจให้ก้าวต่อแม้ในวันที่ท้อถอย ก็คือนักกอล์ฟเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีตัวเธอเป็นแรงบันดาลใจ หลังจากประสบความสำเร็จคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา
"กอล์ฟ แชนเนล" สื่อดังของวงการกอล์ฟโลก ระบุว่า มีนักกอล์ฟเยาวชนหญิงมากมายจากประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากความสำเร็จในระดับโลกของโปรเม และยึดเธอเป็นแบบอย่าง แรงบันดาลใจในการท้าทายตัวเองในเวทีนานาชาติ ซึ่งในจำนวนนั้นก็คือ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล
โปรจีน เจ้าของสถิตินักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์ระดับอาชีพมาครอง ปัจจุบันสังกัดในเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ และหวุดหวิดจะคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้สำเร็จ เมื่อนำมาในรอบสุดท้าย กระทั่งเสียโบกี้ที่หลุม 17 และพลาดพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 4 ฟุตไม่ลงที่หลุมสุดท้าย จนพลาดโอกาสเพลย์ออฟกับโปรเม
เพีย นิลส์สัน โค้ชจิตวิทยาซึ่งร่วมงานกับโปรโม-โปรเมมาตลอด กล่าวถึงโปรเมว่า การประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้โปรเมต้องแบกรับแรงกดดันจากความคาดหวังทั้งจากตัวเองและคนอื่นๆ ท่ามกลางความสนใจมากมายที่ได้รับ โปรเมจึงต้องพยายามหาคำตอบให้ตัวเอง ว่าอะไรที่สำคัญ อะไรที่ทำให้เธอมีความสุข ตัวตนของเธอเป็นแบบไหน และเธอต้องการอะไรจากการดำเนินชีวิต และการเล่นกอล์ฟ
ในเรื่องนี้ โปรเมบอกว่า เพราะมีทั้งนิลส์สันและแมร์ริออตต์คอยให้คำแนะนำและข้อคิดดีๆ ทำให้เป็นตัวเองในวันนี้ และก้าวผ่านความท้อแท้มาได้ อย่างเช้าก่อนแข่งขันวันสุดท้าย นิลส์สันและแมร์ริออตต์บอกกับตนว่า อยากให้เชื่อมั่นในตัวเองแบบเดียวกับที่พวกเธอเชื่อตน ซึ่งคำพูดนี้มีความหมายกับตนมากๆ
โปรเมยังฝากข้อคิดดีๆ ถึงเด็กๆ ชาวไทยที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ก้าวตามรอยตัวเองในอนาคตว่า บางครั้งอาจมีวันที่รู้สึกท้อแท้ อยากยอมแพ้ แต่ขณะเดียวกัน ถ้าเป้าหมายที่ตั้งไว้สำคัญพอ ก็คิดว่าคงไม่มีใครถอดใจไปง่ายๆ ดังนั้น จึงอยากให้อดทน เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะจังหวะชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน อย่ามัวแต่เปรียบตัวเองกับคนอื่น และพยายามทำให้เต็มที่ โอกาสของทุกคนจะมาถึงสักวัน
นั่นคือคำบอกเล่าที่กลั่นกรองจากประสบการณ์จริงตลอดหลายปีบนเส้นทางกอล์ฟอาชีพของ "โปรเม" เอรียา ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
ขณะที่ ยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี ได้ชื่นชมและเเสดงความยินดีกับโปรเม และโปรจีนในความสำเร็จ ซึ่งทั้งคู่ต่างทำผลงานโดดเด่นมาตลอดตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย
“สิ่งสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้ได้ มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม ทุ่มเทไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค สำหรับรางวัลที่โปรเมได้รับ และผลงานของโปรจีน ถือเป็นความภาคภูมิใจของเราในฐานะคนไทยด้วยเช่นกัน เเละยังเป็นแรงบันดาลใจเเละเป็นต้นแบบความสำเร็จให้กับเยาวชนไทยต่อไป"
