รัฐบาลของประเทศอังกฤษประกาศตัวขอเจรจากับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า เพื่อขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เชลซี พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้แฟนบอลเมืองผู้ดีเดินทางไปชมเกมดังกล่าวที่ประเทศตุรกี เนื่องจากล่าสุดแดนไก่งวงกำลังมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ มีกำหนดการที่จะฟาดแข้งกัน ณ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ แต่ล่าสุดทางรัฐบาลอังกฤษใส่ชื่อตุรกีเอาไว้เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งทุกคนที่เดินทางไปในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องถูกกักตัวอยู่ในโรงแรมเป็นเวลา 10 วัน เมื่อเดินทางกลับมายังบ้านเกิด
ข้อบังคับดังกล่าวไม่เว้นแม้กระทั่งบุคลากรในวงการกีฬา รวมไปถึงบรรดานักกีฬา ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกยูโร 2020 ของทีมชาติอังกฤษ ที่จะมีปฏิทินฟาดแข้งช่วงกลางปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, จอห์น โตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, ฟิล โฟเดน, รีซ เจมส์, เมสัน เมาท์ เป็นต้น
จากสาเหตุดังกล่าวทำให้รัฐบาลอังกฤษเปิดโต๊ะเจรจากับยูฟ่า เพื่อหารือที่ขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบชิงฯ ยูซีแอล ให้มาเตะที่ประเทศอังกฤษแทน อย่างไรก็ตามถือว่ามีปัญหาอยู่เล็กน้อย เนื่องจากสังเวียนใหญ่อย่าง เวมบลีย์ มีโปรแกรมเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ ของศึกอีเอฟแอล แชมเปี้ยนส์ชิพ เพื่อหาตัวแทนเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ลงทำการแข่งขันในวันที่ 29 พ.ค.เหมือนกัน ซึ่งทางเมืองผู้ดีอาจต้องมองหาสนามอื่นเพื่อจัดยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แทน
นอกจากนี้ แกรนท์ ชาร์ปส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของอังกฤษ ออกมาแนะนำว่าแฟนบอลของเชลซี และแมนฯ ซิตี้ ไม่ควรเดินทางไปตุรกีเพื่อชมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้่ยนส์ลีก ที่ประเทศตุรกี ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ เนื่องจากปัจจุบันตุรกีเป็นประเทศที่ถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีสีแดง มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะติดเชื้อโควิด-19 กลับมาได้