ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ทุกวันนี้วงการกีฬาเปิดกว้างไม่ได้มีพื้นที่ให้กับผู้ชายเท่านั้น เพราะผู้หญิงสามารถพุ่งขึ้นมาสร้างชื่อได้อย่างทัดเทียม ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬาเอง รวมถึงผู้บริหารทีมกีฬาต่างๆ อย่างล่าสุดคือนายหญิงหัวเรือใหญ่ของสโมสร ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด
สโมสร ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด เพิ่งเปิดตัวประธานสาวสวยคนใหม่คือ “แพรว” เกษตรสุข ศุขหงษ์ทอง ขึ้นแท่นคุมบังเหียนพา "กระรอกขาว" ลุยศึก ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก ทีมจากโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นก็ถูกจับจ้องทันที เพราะเธอคนนี้ไม่ได้มีดีแต่หน้าตา แต่ยังมีความสามารถทางด้านบริหาร โดยเป็นถึงประธานบริษัท พีบี อินฟินิตี้ จำกัด ผลิต และรับสกีนเสื้อกีฬาระดับชั้นนำที่สโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด สวมใส่ ใช้ลวดลายจากผ้าไหมท้องถิ่นประยุกต์ใส่จนสวยแปลกตาโปรโมตฝีมือจากท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นไปอีก และยังการันตีความสวยด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางที่สาว ๆ รู้จักกันดีอย่าง Bright vit-c และเป็น "มาดามแพรว" ที่รับบทพรีเซนเตอร์โดยไม่ง้อนางแบบที่ไหน
ด้านประสบการณ์ฟุตบอลสาวสวยวัย 30 ปี ก็ไม่ได้ใหม่แบบแกะกล่อง เพราะเคยคลุกคลีในแวดวงฟุตบอลร่วมกับ อาวุธ เอฟวา คู่ชีวิตที่เคยเป็นถึงอดีตนักฟุตซอลไทยแลนด์ลีก ร่วมกันสร้างทีมอคาเดมี่ฟุตบอล และฟุตซอลของจังหวัดนครพนม กวาดแชมป์มานับไม่ถ้วนทั้งระดับภาค และระดับประเทศ
มาดามแพรว เผยว่า "ต้องบอกก่อนว่าตัวแพรวเองไม่ค่อยได้มีความรู้เรื่องฟุตบอลอะไรมากแต่ว่าด้วยความที่แฟนเราเค้าชอบและอยากทำ และได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่ที่ทำทีมมาก่อน ก็เป็นแรงผลักดันที่อยากทำให้จังหวัดร้อยเอ็ดกลับมามีทีมอาชีพอีกครั้ง"
หลักการบริหารของ "มาดามแพรว" จะเน้นความหยั่งยืนเป็นหลัก ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถมาช่วยฟื้นฟูทีม "กระรอกขาว" ให้กลับมาสู่เส้นทางอาชีพได้อีกครั้ง อย่างที่เคยทำประสบความสำเร็จมาแล้วที่จังหวัดนครพนม "หน้าที่หลักๆ ของแพรวคือการหาเงิน ซึ่งสปอนเซอร์ก็คือเราเอง ตอนนี้เราอยู่ในลีกสมัครเล่น งบประมาณก็หลักล้านต้นๆ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราจะทำ บางเดือนมากบางเดือนน้อย ยังไม่มีตัวเลขที่ตายตัว เราอยากใช้เงินตัวเองเพื่อให้สร้างคุณค่าให้ทีมก่อน เพราะเราคิดว่าการขอเงินคนอื่นมันยาก เราหาเงินเองง่ายกว่า ขอยืนตัวขาของเราก่อนถ้าวันนึงคนเห็นคุณค่าของทีมเรา เขาก็จะเข้าหาเราเอง"
"ส่วนในเรื่องการทำทีมและนักกีฬา ก็เป็นเรื่องของผู้จัดการทีม เราดูแลคนละส่วน แต่เราก็จะรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของสโมสร ซึ่งแพรวจะเน้นความยั่งยืน ทำยังไงก็ได้ให้สโมสรเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ เราเตรียมทีมเพื่อเป้าหมายสู่ลีกสูงสุดอย่างค่อยเป็นค่อยไป วางแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในสโมสรของเรา ตอนนี้เราทำ MOU กับโรงเรียนหลายๆโรงเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีโอกาสเป็นนักบอลอาชีพ มันส่งเสริมซึ่งกันและกัน"
แน่นอนว่าไอดอลและแนวทางการทำงานของมาดามแพรวก็คือ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายหญิงการท่าเรือเอฟซี ทีมยักษ์ใหญ่ในศึกไทยลีก ซึ่งในการบริหาร "สิงห์เจ้าท่า" จะอยู่เคียงข้างทีมเสมอ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวังขนาดไหน
"คนที่เรารู้จักคนแรกก็คือมาดามแป้ง เป็นผู้หญิงต้นแบบในการทำฟุตบอล เค้าเป็นผู้หญิงที่เก่ง สวย พร้อมทุกอย่าง พอเราเข้ามาทำฟุตบอล ก็เห็นมาดามหลายๆ คน เราก็ติดตามทุกคน ศึกษาการทำทีมของทุกๆสโมสร พยายามปรับใช้กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะแพรวต้องการทำหน้าที่นี้ให้นานที่สุด อยากให้ทีมมันมั่นคง เดินด้วยตัวเองได้เราก็จะทำจนกว่าเราจะไม่ไหว ไม่ไหวในที่นี้ก็ต้องดูว่าเรื่องอะไร แต่คิดว่าไม่ไปไหน เราจะสู้แน่นอน แม้ว่าแรกเริ่มเราจะไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอลเท่าไหร่ แต่สิ่งเหล่านี้เราเรียนรู้ได้ หาประสบการณ์ได้ พอเรามาทำ เราเริ่มรัก ผูกพันธ์กับฟุตบอลแล้ว" นายหญิงแห่ง ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด เผย
นอกจากนี้ ประธานสโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด ยังได้เริ่มปรับปรุงสนามใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พร้อมทั้งการแข่งขันและการฝึกซ้อม ซึ่งการมีรังเหย้าเป็นของตัวเองคือเครื่องการันตีว่าเธอไม่ได้เข้ามาบริหารทีมเพื่อเรียกกระแส แต่ต้องการพาทีมไปสู่ความสำเร็จดังที่พูดไว้จริงๆ "ที่ผ่านมาเราปรับปรุงสนามใหม่ทั้งหมด ตอนนี้สนามพร้อมใช้งานแล้ว เราต้องการพื้่นที่ในการฝึกซ้อมถ้าเราไม่มีสนามของตัวเอง ก็ต้องตระเวนซ้อมไปเรื่อย แต่ตอนนี้เรามีสนามของตัวเองแล้ว ซึ่งมีมาตรฐานเพียงสู่การเล่นลีกอาชีพ ความตั้งใจของเราคืออยากเทียบเท่าบุรีรัมย์ อยากเป็นทีมจังหวัดที่ทุกคนร่วมใจเชียร์ แต่คงจะไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะยังห่างไกลตัวเรามาก"
ส่วนเป้าหมายสูงสุดของ ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด นายหญิงคนนี้ยอมรับว่าไม่ใช่เพียงแค่การลงเล่นในระดับภูมิภาค แต่เป็นการนำพาสโมสรขึ้นสู่ ไทยแลนด์ลีก ลีกสูงสุดของประเทศให้ได้ ซึ่งในอนาคตหากทำได้สำเร็จตามเป้า "มาดามแพรว" จะต้องสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลไทยให้คึกคักมากกว่านี้อย่างแน่นอน
