พลพรรคลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกเต็มสูบตลอด 90 นาที แต่ทะลวงประตูของ รีล มาดริด ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว ก่อนจบที่เสมอ 0-0 และทำให้ “ราชันชุดขาว” ใช้สกอร์จากนัดแรก ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา
ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ลิเวอร์พูล 0-0 รีล มาดริด
(มาดริด เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
บิ๊กแมตช์แห่ง 8 ทีมนัดสอง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านปะทะ รีล มาดริด เกมนี้ “ราชันชุดขาว” กุมความได้เปรียบหลังชนะมาก่อนนัดแรก 3-1 ส่วนฝั่งเจ้าบ้าน ต้องยิงชนะ 2-0 เพื่อพลิกเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน
เริ่มเกม 2 นาที ลิเวอร์พูล หวิดนำ ซาดิโอ มาเน่ ตบเข้ากลางโล่งๆ ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แปขวาแต่ตรงตัว ธิโบต์ คูร์ตัวส์ ขณะที่ นาที 19 มาดริด ตอบโต้ คาเซมิโร่ แปะให้ วินิซิอุส จูเนียร์ บรรจงซัดเข้ากลางประตู แต่ อลิสสัน เซฟหวุดหวิด
โอกาสลุ้นมีน้อย นาที 41 หงส์แดง พลาดโอกาสทอง เคอร์ติส โจนส์ ตวัดเข้ากลางแล้ว จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม พุ่งมายิงแต่แรงเกินข้ามคาน จากนั้นยังไม่มีฝั่งไหนซัลโวได้ จบครึ่งแรกเสมอก่อน 0-0
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ลุยแหลก นาที 56 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถวายบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ คลุ้มคลั่งยิงแต่ข้ามคานอีก ข้ามมา นาที 68 บอลของเจ้าบ้าน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ขึ้นโหม่งแต่ก็ข้ามคานเหมือนกัน
นาที 81 มาดริด เกือบทำได้ คาริม เบนเซม่า ยืนรอบอลหน้าประตูแต่ขวิดบอลหลุดกรอบ สุดท้ายเวลาที่เหลือไม่มีใครยิงได้เลย จบเกม รีล มาดริด เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยบุญเก่าจากนัดแรก ส่วน “หงส์แดง” จอดป้ายอดไปต่อ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - อลิสสัน, โอซาน คาบัค, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, แอนดี โรเบิร์ตสัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
รีล มาดริด - ธิโบต์ คูร์ตัวส์, นาโช, เอแดร์ มิลิเตา, เฟอร์ลันด์ เมนดี, เฟเดริโก บัลเบร์เด, คาเซมิโร่, โทนี โครส, ลูก้า โมดริช, วินิซิอุส จูเนียร์, มาร์โก อเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า