ความเคลื่อนไหวของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์ 115 ปอนด์ สภามวยโลก ที่ล่าสุดมีมติจากที่ประชุมของ WBC รวมไปถึงมีคำยืนยันจาก เมาริซิโอ ซูไลมาน ประธานของ WBC จะให้มีการจัดทัวร์นาเมนต์ใหญ่เกิดขึ้น
โดย "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น นักชกขวัญใจชาวไทย จะได้ชิงตำแหน่งแชมป์ว่างของ WBC กับ คาร์ลอส คูเอดราส คู่ปรับเก่าชาวเม็กซิกัน ซึ่งผู้ชนะระหว่างคู่นี้จะได้สิทธิ์ไปชกกับการรีแมตช์ ภาค 3 ระหว่าง "เอล กัลโญ่" ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ที่ถูกยกให้เป็นแชมป์แฟรนไชส์ของรุ่น (ไม่ต้องชกไฟต์บังคับกับใคร) กับ "ช็อกกาลิโต้" โรมัน กอนซาเลซ ซึ่งทั้งคู่เพิ่งดวลกำปั้นกันมาในการชิงแชมป์โลก 2 สถาบัน ทั้ง WBC และ WBA ซึ่งไฟต์ดังกล่าวเป็น "เอล กัลโญ่" ที่เอาชนะไปได้
ซึ่งจากการที่ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ถูกยกให้เป็นแชมป์แฟรนไชส์ของรุ่น ทำให้เข็มขัด WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวทนั้นจะว่างลง โดย "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ก็จะได้มาชิงตำแหน่งตรงนี้กับ คาร์ลอส คูเอดราส เพื่อหาผู้ครองเข็มขัดแชมป์ WBC และได้สิทธิ์ไปเจอผู้ชนะระหว่าง เอสตราด้า กับ กอนซาเลซ ต่อไป
"ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมจาก WBC ที่จัดทัวร์นาเมนต์แบบนี้ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เริ่มกล่าวกับ Ring TV
"ผมต้องต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก WBC กับ คาร์ลอส คูเอดราส และถ้าผมเอาชนะเขาได้ ผมก็จะได้สิทธิ์ไปเจอผู้ชนะระหว่าง ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า กับ โรมัน กอนซาเลซ ที่จะเจอกันในภาคที่ 3 ผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมสำหรับทุกฝ่าย แฟนๆก็จะได้เห็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ถึง 2 ไฟต์ และอีกหนึ่งครั้งกับผู้ชนะที่จะต้องมาเจอกัน"
"ผมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์ WBC และถ้าผมชนะไฟต์นี้ผมก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ครองแชมป์โลก WBC ถึง 3 สมัย มันเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผมและชาวไทยทุกคน ก็ต้องขอขอบคุณประธานเมาริซิโอ ซูไลมาน รวมไปถึงคณะกรรมการ WBC ทุกๆคน ที่ทำให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น"
"นี่จะเป็นการรีแมตช์ของผม กับ คาร์ลอส คูเอดราส ผมรอเวลานี้มา 7 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ผมขึ้นชกอาชีพเมื่อ 10 ปีก่อน ผมไม่เคยแพ้ใครเลย ยกเว้นก็แค่ คาร์ลอส คูเอดราส ดังนั้นที่จะเป็นไฟต์สำคัญสำหรับผมมากๆ ผมรับประกันได้ว่าผมจะต้องเอาชนะการชกในไฟต์นี้ให้ได้" เจ้าแหลม กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ "แบงค์" เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของนครหลวงโปรโมชั่น กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมคิดว่านี่เป็นการวางโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมของท่านประธานเมาริซิโอ ซูไลมาน และสภามวยโลก WBC มันจะช่วยให้ศรีสะเกษสามารถก้าวขึ้นมาต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก WBC และแฟนๆ ก็จะได้รับชมไฟต์ที่น่าทึ่งถึง 2 ครั้งด้วยกัน จะเป็นการพบกันระหว่างราชาทั้ง 4 คน สำหรับรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ผมว่ามันกลายเป็นตำนานไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่การต่อสู้จากทั้ง 4 คน จะเกิดขึ้นในรูปแบบของทัวร์นาเมนต์ และเราจะได้รู้กันว่าใครคือคนที่เจ๋งที่สุดใน 4 คนนี้"