"บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวกรณีล็อคผลการแข่งขันในลีกฟุตบอลอาชีพของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลเพิ่งตัดสินลงโทษจำคุกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดจำนวน 15 คน
"เรื่องการล็อคผลการแข่งขันหรือล้มบอลเนี่ย ถึงแม้จะมีการดำเนินคดีถึงที่สุด ศาลได้ลงโทษจำคุกผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 15 คน เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกของวงการกีฬาบ้านเราที่มีการลงโทษผู้ที่กระทำผิด พ.ร.บ.กีฬาในประเทศไทย ที่สำคัญเป็นสิ่งยืนยันให้เห็นชัดว่าเมื่อท่านกระทำผิด ท่านต้องได้รับโทษ ก่อนหน้านี้เคยมีคนปรามาสว่าเรื่องเหล่านี้เป็นแค่เรื่องปาหี่ มวยล้มต้มคนดู แต่วันนี้ก็ชัดเจนนะครับ ศาลลงโทษบุคคลเหล่านั้นโดยไม่รอลงอาญา แต่จำเลยทั้งหมด 15 คนนั้นก็ยังมีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ และฎีกา ตามกระบวนการยุติธรรมได้" พล.ต.อ.ดร.สมยศ เริ่มกล่าว
"ส่วนเรื่องเหล่านี้จะหมดไปจากวงการฟุตบอลหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของอนาคต ผมไม่อาจคาดเดาได้ แต่ตัวผมเอง ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ มิได้ปล่อยปละละเลย ยังมีการกวดขัน ตรวจสอบกันอย่างเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราทำงานร่วมกับเอเอฟซี, สปอร์ตเรดาร์ ได้รายงานความเคลื่อนไหว ความน่าสงสัย ความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในการแข่งขันแมตช์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในไทยลีก 1, 2 และ 3 มาโดยตลอด"
"เรามีการล็อกเป้าหมายผู้ที่น่าสงสัยเอาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการดำเนินการตามกฎหมายมันต้องใช้พยานหลักฐานที่เพียงพอ เมื่อใดที่เรายังไม่มีหลักฐานเพียงพอเราก็ต้องรอเวลา แต่เมื่อใดที่เรามีหลักฐานเพียงพอ เราก็จะต้องดำเนินการโดยไม่มีการละเว้น ต้องฝากผ่านสื่อมวลชนไปยังผู้ที่อยู่ในกระบวนการ หรือมีพฤิติการณ์ในการล็อคผลกีฬาฟุตบอล ให้พึงเอาไว้ว่าตราบใดที่ท่านไม่หยุด ผมก็ไม่หยุด แต่ผมไม่ต้องบอกว่าผมทำอะไรบ้าง ถึงเวลาเดี๋ยวท่านก็รู้เอง ถึงเวลาท่านก็ต้องไปติดคุก อันนี้เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้"
"ผมไม่ได้มีความโกรธเคืองกับบุคคลเหล่านั้นเป็นการส่วนตัวเพราะผมเป็นที่เคยอยู่นอกวงการฟุตบอลมาก่อน จึงไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านี้ แต่มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดำเนินการ มะเร็งร้ายที่เกาะกินวงการกีฬาฟุตบอลมาอย่างยาวนาน มันถึงเวลาที่จำเป็นจะต้องผ่าตัด ฉีดยา ฉายแสง เพื่อทำลายมะเร็งร้ายให้หมดไปให้ได้" บิ๊กอ๊อด ทิ้งท้าย