ฤดูกาลนี้เราเห็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนถ่ายยุคสมัยลูกหนังอย่างชัดเจน เพราะ บาร์เซโลน่า กับ ยูเวนตุส เกี่ยวก้อยกันจอดป้ายรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อันแสดงถึงการถดถอยของ 2 สุดยอดนักเตะประจำ พ.ศ.นี้คือ คริสเตียโน โรนัลโด้ วัย 36 ปีกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่มิถุนายนนี้ก็จะวัย 34 ปี
แน่นอนว่าสิ่งนี้คือธรรมชาติของเกมฟุตบอลไม่มีใครเล่นได้อย่างไม่มีตกและไม่มีทีมใดจะยืนอยู่จุดสูงสุดตลอดไป สิ่งนี้คือวิถีที่แต่ละทีมต้องมีการวางแผนระยะยาวหาตัวแทนตัวแทนของนักเตะที่ปลดระวาง อีกทีมที่อาจต้องเจอเช่นเดียวกับ บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส คือ บาเยิร์น มิวนิค เพราะมีนักเตะหลายคนอายุเริ่มเยอะอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ถล่มประตูให้ทีมเกือบจะ 300 ประตูกับการเข้าสู่ฤดูกาลที่ 7 แต่ตอนนี้เขาอายุ 32 ปีแล้ว
ดังนั้นบอร์ดบริหาร บาเยิร์น ที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปีที่แล้ว ต้องการสานต่อความยิ่งใหญ่ ไม่อยากจะจบยุครุ่งเรืองไปพร้อมๆ กับนักเตะที่โรยราจากประสบการณ์เมื่อปี 2010 ทำให้ปีหน้าเราจะเริ่มได้เห็น "เสือใต้" โฉมใหม่ที่จะปรับทีละเล็กละน้อยตั้งแต่หลังบ้านไปจนถึงหน้าบ้านวันที่ เลวานดอฟสกี้ ต้องอำลาไป
เริ่มที่ด้วยความตั้งใจที่จะรักษาโครงสร้างค่าจ้างหรือเพดานค่าเหนื่อยนักเตะให้สมดุลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บอร์ดบริหารจึงได้ยุติการเจรจาการขยายข้อผูกมัดกับ ดาวิด อลาบา แนวรับทีมชาติออสเตรีย เพราะเรียกร้องเงินสูงถึง 17 ล้านปอนด์ต่อปี ปัจจุบันสัญญาจะหมดซัมเมอร์นี้ ซึ่งได้ประกาศอำลาทีมอย่างเป็นทางการปิดฉาก 13 ปี โดยสามารถย้ายได้แบบฟรีทรานเฟอร์ คาดว่าหลายทีมตอมหึ่งอย่างแน่นอน เนื่องจากอายุจะ 29 ปีกลางปีนี้ยังเล่นระดับสูงสุดได้อีกหลายซีซัน
กองหลังคนที่ 2 ที่จะอำลา บาเยิร์น ซัมเมอร์นี้เช่นเดียวกับ อลาบา ก็คือ เฌโรม บัวเต็ง เพราะอายุปาเข้าไป 32 ปีแล้ว บอร์ดบริหารจึงไม่อนุมัติสัญญาใหม่ที่จะทำให้รับค่าเหนื่อย 8.5 ล้านปอนด์ต่อปี รายนี้ก็สามารถย้ายทีมได้แบบฟรีทรานเฟอร์ อดีตเคยเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว แต่ไม่เปรี้ยงปร้างบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยังไม่หมดแนวรับอีกคนที่จะจากไปเมื่อปิดฤดูกาลนี้อีกคนคือ ฆาบี้ มาร์ติเนซ ที่ปัจจุบันวัย 32 ปีแล้ว
แม้จะเสียกองหลังถึง 3 คน แต่ดูแล้วไม่มีผลกระทบ เพราะ ลูกัส แอร์กน็องเดซ สามารถเล่นได้ทั้งแบ๊กซ้ายและเซนเตอร์ทดแทนการจากไปของ อลาบา ได้สบาย ส่วน นิคลาส ซูเล่ เจ้าของความสูง 195 เซนติเมตร ปีนี้ก็ถ่างไปเล่นแบ็กขวาบ่อยครั้ง ซึ่งก็ทำได้ดีเสียด้วย
นอกจากนี้ ตองกี เนียนซู กองหลังวัย 18 ปีที่เซ็นมาจาก ปารีส-แชร์กแมง ซัมเมอร์ที่แล้ว ปีหน้าจะได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น หลังจากปีนี้บาดเจ็บบ่อยครั้ง ขณะที่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟป้ายแดงที่จะมายืนเป็นหัวใจแนวรับแทน บัวเต็ง ก็คือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน ที่ฉีกสัญญาล่วงหน้า 36.4 ล้านปอนด์คว้ามาจาก ไลป์ซิก ทำลายความหวังของหลายต่อหลายทีมในอังกฤษ
แม้ว่าจะเป็นสโมสรมหาอำนาจอย่าง บาเยิร์น แต่ก็ไม่ชอบเข้าร่วมสงครามเสนอราคาคว้าตัวนักเตะกับทีมอื่นๆ ดังนั้นบอร์ดบริหารก็เลยต้องการให้ธุรกิจโยกย้ายตัวเสร็จสิ้นแต่เนิ่นๆ เมื่อมั่นใจแล้วว่าเจอคนที่ใช่รวมถึงราคาสมเหตุสมผล อีกคนที่เซ็นมาก่อนแบบเดียวกับ อูปาเมกาโน ก็คือ โอมาร์ ริชาร์ดส์ แบ็กซ้ายชาวอังกฤษวัย 23 ปีที่จะมาจาก เรดดิ้ง พร้อมเป็นตัวสำรองของ อัลฟอนโซ เดวี่ส์ ในปีหน้านี้
ไม่ใช่แค่จัดระเบียบแนวรับเท่านั้นเมื่อไม่นานนี้ บาเยิร์น ได้ต่อสัญญา จามาล มูเซียล่า แนวรุกวัย 18 ปี ออกไปจนถึงปี 2026 เพื่อให้แน่ใจว่า บาร์เซโลน่า กับ ลิเวอร์พูล จะล้มเลิกความตั้งใจอยากได้ตัว โดยเจ้าหนูรายนี้คือทายาทของ โธมัส มุลเลอร์ วัย 31 ปีที่จะหมดสัญญาในปี 2023
ส่วนหนึ่ง บาเยิร์น มีบทเรียนความผิดพลาด หลังจากได้แชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2013 คือตัดสินใจใช้บริการแนวรุกที่อายุเยอะแล้วทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน กับ ฟรองค์ ริเบรี่ ต่อไป กว่าจะรู้ตัวก็ต้องรอถึง 7 ปีกว่าจะได้แชมป์ยุโรปอีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อีกหนึ่งตำแหน่งสำคัญที่ดูเหมือน บาเยิร์น จะยังไม่มีตัวแทนของ โรเบิร์ต ลูวานดอฟสกี กองหน้าทีมชาติโปแลนด์วัย 32 ปีที่มีสัญญาจนถึงปี 2023 โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ฮันซี ฟลิค กุนซือ "เสือใต้" เพิ่งพูดถึง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ดาวยิงฟอร์มแรงของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันหมายถึงอาจจะใช้ออปชันฉีกสัญญาคว้าตัวในปี 2022 ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์
ภาพรวมที่กล่าวมาขุมกำลังในอนาคตของ บาเยิร์น ดูจะน่าเกรงขามไม่น้อยด้วยการผสมผสานดาวรุ่งพรสวรรค์อย่าง อูปาเมกาโน กับ เดวี่ส์ โดยมีตัวเก๋าอย่าง โจชัว คิมมิช และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ซึ่งที่ผ่านมาห้วงเวลา 10 ปีระบบการเล่นแทบจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยทุกอย่างถูกยึดเอาและไม่มีเหตุผลว่าจะเปลี่ยนไปในเร็ววันนี้แม้ว่ากุนซือคนใหม่จะเข้ามาก็ตาม แค่มองดูผู้เล่นที่มีแววจะยกระดับให้กับทีมได้แล้วคว้ามาเติมเต็มก็พอ
แม้จะเป็นการยากที่ทีมใดจะอยู่ในจุดสูงสุดของฟุตบอลยุโรปมากกว่า 2-3 ปี แต่ดูเหมือนว่า บาเยิร์น จะเป็นทีมที่มีส่วนผสมและแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมและลงตัวเพื่อให้แน่ใจว่าทีมจะไม่ก้าวถอยหลังไป