xs
xsm
sm
md
lg

วิวาทะการเมือง “ราชา” ปะทะ “พระเจ้า” / MVP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ประเด็นการเมืองบ้านเรา น่าจะกำลังร้อนแรง หลายๆ ท่านคงทราบข่าว แกนนำกลุ่มหนึ่งถูกตัดสินคดีจำคุก เหลือแค่ไม่กี่กลุ่มที่ยังออกมาเย้วๆ กันอยู่ เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็คงจะได้ตามมาสมทบกันแน่นอน อันนี้ใช่ว่าจะมีเจตนาเอนเอียงฝ่ายใด หากมองเหตุการณ์บนโลกแห่งความจริง การชุมนุมใดๆ ที่มีจุดประสงค์ต่อต้านอำนาจรัฐ ย่อมถูกยัดข้อหาต่างๆ นานา สุดท้ายก็ต้องจบที่เรือนจำ หรือกลายเป็นเครื่องมือของผู้แสวงหาอำนาจ ดังคำเปรียบเปรยไว้ว่า “เตะหมูเข้าปากหมา”

ข้ามซีกโลกมาฝั่งตะวันตกดีกว่า หลายๆ ท่านคงได้ทราบบทสัมภาษณ์ของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซูเปอร์สตาร์คนของวงการลูกหนัง และโคตรดาวยิงสังกัด เอซี มิลาน พาดพิงถึง เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ด ซูเปอร์สตาร์แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กรณีการาเคลื่อนไหวด้านการเมืองและสิทธิมนุษยชน ซึ่งนักกีฬาอาชีพไม่ควรเข้ามามีบทบาทหรือชี้นำ และก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

อิบราฮิโมวิช เผยต่อหนังสือพิมพ์ แอลเอ ไทม์ส “เขามหัศจรรย์ในสิ่งที่เขาทำ แต่ผมไม่ชอบเวลาเห็นใครอาศัยชื่อเสียงแบบนั้น ควบคู่กับการทำกิจกรรมการเมือง ทำสิ่งที่ตัวเองถนัด ผมเล่นฟุตบอล เพราะผมเล่นฟุตบอลเก่ง ผมไม่ยุ่งเรื่องการเมือง ไว้ผมเป็นนักการเมืองเสียก่อน แล้วผมจะทำงานการเมือง” เที่ยวล่าสุด หัวหอกวัย 39 กะรัต ยังตอกย้ำจุดยืนเดิม “กีฬาสร้างความสามัคคีแก่ชาวโลก แต่การเมืองสร้างความแตกแยก บทบาทของเรา คือ สร้างความสามัคคี ด้วยการทำสิ่งที่เรถนัดพ นักกีฬาต้องเล่นกีฬา และนักการเมืองควรทำหน้าที่ด้านการเมือง”

สำหรับ “คิงเจมส์” ทุกคนคงทราบกันดี สิ่งที่เป็นกระแสของ NBA ตลอดซีซันที่แล้ว คือ การเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำรุนแรงเกินเหตุต่อคนผิวสี ซึ่งเกิดขึ้นมายาวนาน บางครั้งก็เห็นข่าวเพื่อนร่วมอาชีพอย่าง ยานนิส อันเทโทคุมโป ฟอร์เวิร์ด มิลวอคกี บัคส์ และ เจย์เลน บราวน์ ฟอร์เวิร์ด บอสตัน เซลติกส์ ออกมาร่วมชุมชุมกับกลุ่ม Black Lives Matters ด้วยเช่นกัน และ เลอบรอน ก็ยังมีส่วนรณรงค์คนผิวสี ลงคะแนนต่อต้านผู้นำเหยียดผิวกระทั่ง โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ผมไม่เคยอาศัยหรือเที่ยว ที่สหรัฐอเมริกา เพียงแต่อาศัยการดูภาพยนตร์ฮอลลีวูด เชื่อว่าคนผิวสีมีความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ครอบครัวฐานะยากจน พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ชีวิตมักพัวพันคดีอาชญากรรมต่างๆ ตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย จนถึงยาเสพติด บวกปมด้อยซึ่งถูกกดขี่เยี่ยงทาสตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ เส้นทางกีฬาอาชีพ ถือเป็นโอกาสที่ดีสุด เพื่อการยอมรับของสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิต

ด้วยความสำนึกของชาติกำเนิด เลอบรอน จึงต้องใช้เวทีของตัวเอง คือ บาสเกตบอล NBA ที่มีผู้ติดตามนับล้านทั่วโลก ป่าวประกาศจุดยืนเพื่อปกป้องคนผิวสีด้วยกัน และเรียกร้องความเสมอภาค ทางกลับกัน หากเขาเป็นแค่ มิสเตอร์ เลอบรอน เจมส์ ธรรมดาๆ ไม่ได้เป็นเสมือนไอดอลของเยาวชน หรือทรงอิทธิพลต่อชาวโลก แสดงความเห็นใดๆ ก็ย่อมจบแค่โต๊ะสนทนา ใครเล่าจะมาใยดี

ส่วนตัวผมในฐานะแฟนคนหนึ่งของ ซลาตัน จะไม่ตัดสินผิด-ถูกใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยความเคารพต่อความเห็นแตกต่าง เพียงแต่ความเห็นของ “พระเจ้า” มันสื่อความหมายทำนองเดียวกับ ผู้สื่อข่าว “ฟ็อกซ์” คนหนึ่ง ตอบโต้ เลอบรอน ว่า “หุบปากซะ แล้วเลี้ยงบอลต่อไป” หรือประโยคของ ไมเคิล จอร์แดน ตไนาน ชิคาโก บูลล์ส ตอบผู้สื่อข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นการเมือง “รีพับลิกัน ก็ซื้อรองเท้าเช่นกัน” คิดแบบ ซลาตัน ไม่ผิด เพียงแต่การทนดูแฟนๆ ของคุณถูกกดขี่ข่มเหง ทั้งๆ ที่คุณเป็นคนที่พวกเขาศรัทธา มันก็น่าเสียดายชื่อเสียงของตัวเองอยู่เหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น