วงการบาสเกตบอล จัดทัวร์ลง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าจอมเก๋า เอซี มิลาน กรณีพาดพิง เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ดแม่ทัพ แอลเอ เลเกอร์ส เคลื่อนไหวทางสังคม
"คิงเจมส์" อาศัยชื่อเสียงระดับซูเปอร์สตาร์กีฬาระดับโลกคนหนึ่ง ต่อสู้เพื่อคนผิวสี อาทิ สิทธิ์การลงคะแนนเลือกตั้ง และความไม่เท่าเทียมกัน
ขณะที่ ซลาตัน วัย 39 ปี มองต่างมุม ยืนยันเหล่านักกีฬาชื่อดัง ที่เข้ามามีบทบาทด้านการเมือง เป็นภาพลักษณ์แง่ลบ ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพของ เลอบรอน ออกมาปกป้อง
อดีตผู้เล่น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ ไมอามี ฮีต ตอกกลับ ตนไม่ใช่คนที่จะนิ่งดูดายต่อความไม่ถูกต้อง และสถานะของตัวเองเป็นมากกว่านักกีฬาคนหนึ่ง
เริ่มจาก เอเนส แคนเตอร์ เซ็นเตอร์ ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส ซึ่งแสดงจุดยืนชัดเจน ต่อต้านการคืนสู่อำนาจของ ตอยยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี เน้นย้ำความสำคัญของนักกีฬา ต้องลุกขึ้นสู้ความอยุติธรรม
แคนเตอร์ ตอบโต้ "ใครบางคนต้องไปบอก อิบราฮิโมวิช การแสดงความเห็นทางการเมือง กับ การลุกขึ้นต่อต้านการกดขี่ข่มเหง และเรียกร้องต่อผู้นำ เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกัน"
"Black Lives Matters ไม่ใช่การแสดงออกด้านการเมือง เรากำลังพูดถึงการต่อต้านพฤติกรรมกดขี่ข่มเหง เราทุกคนมีเสรีภาพที่จะแสดงออก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา"
ด้าน บารอน เดวิส อดีตการ์ดจ่ายดีกรี ออล-สตาร์ โจมตี ซลาตัน บนเพจ "ทวิตเตอร์" สื่อสังคมออนไลน์ "ซลาตัน เอาก้นของมึ*อยู่ห่างๆ แอลเอ กาแล็กซี มึ*แ*งโง่ฉิ**** เอาหน้าตาที่ก็อปปี โซฮาน คืนให้ (อดัม) แซนด์เลอร์ ซะ จงฟังเสียงของราชา @คิงเจมส์"
และ เจเรมี หลิน อดีตการ์ดขวัญใจมหาชน นิว ยอร์ก นิกส์ และ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ โพสต์ "พอนักกีฬาบริจาคเงินจากรายได้ของพวกเขา ไม่เห็นมีใครปฏิเสธ แต่พอนักกีฬาพูดด้วยชื่อเสียงที่พวกเขาได้รับ นั่นคือเรามีปัญหาหรือ? 2 มาตรฐานชัดๆ"