คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
หลังจากรัฐบาลที่มีเสียงมากกว่าผ่านพ้นหลุดรอดการโหวทไม่ไว้วางใจ แม้จะถูกถล่มโจมตีจากฝ่ายค้านด้วยหลากหลายข้อกล่าวหาทั้งเรื่องทุจริต ไร้คุณธรรม และไร้ฝีมือในการบริหาร ไร้วัคซีน โควิด-19 อีกทั้งโครงการยกแผ่นดินให้ต่างชาติ รวมทั้ง ตั๋วช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ วันนี้ผมจึงนำเสนอเรื่องเบาๆเกี่ยวกับการยิงประตูในนามทีมชาติที่นับเป็นสถิติตลอดกาลบ้างครับ
เริ่มที่ ทีมชาติไทย เจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดก็ต้อง โก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กองหน้าจอมตีลังกา ที่ตอนนี้กลับไปเป็นผู้จัดการทีม ฮวงอั๋น จาลาย (Hoàng Anh Gia Lai) ใน วี ลีก ซิโก้ ซัดไป 71 ประตูจาก 134 นัด คิดเป็น 0.53 ประตูต่อนัด เป็นสถิติตลอดกาลยังไม่มีใครลบได้ และติดอันดับ 13 ของโลกด้วย ในแถบอาเซี่ยนมี เล กง วิน (Lê Công Vinh) กองหน้าทีมชาติเหวียตนามที่ใกล้เคียงหน่อย เขายิงได้ 46 ประตูจากการลงสนาม 75 นัด คิดเป็นอัตรา 0.63 ประตูต่อนัด
ในทวีปเอเชีย กองหน้าที่มีอัตราการยิงสุดยอดไปเลย คิดเป็น 0.99 ประตูต่อนัด เป็นค่าเฉลี่ยที่อาจเรียกได้ว่า ยิงเกือบทุกนัด เขาคือ คูนิชิเกะ คามาโมโตะ (Kunishige Kamamoto) ศูนย์หน้าทีมชาติญี่ปุ่นในยุค 60-70 โน่น คูนิชิเกะ ยิงได้ 75 ประตูจาก 76 นัด อันนี้บางแห่งบันทึกเป็น ยิง 81 ประตูจาก 84 นัด คิดเป็นอัตรา 0.95 อย่างไรก็ตาม เขาติดอันดับ 4 ดาวยิงสูงสุดในทีมชาติตลอดกาลของโลก นักเตะดังของเอเชียอีกคนคือ ชา บ็อม-กึน (Cha Bum-geun) ศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีใต้ที่ไปค้าแข้งใน เจอรมานี ยิงได้ 55 ประตูจาก 121 นัด คิดเป็นอัตรา 0.45
ดาวยิงที่ครองสถิติทีมชาติเด่นๆยังมี เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney) ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ยิง 53 จาก 119 นัด คิดเป็นอัตรา 0.45 มีโรสล้าฟ คโลเซ่อ (Miroslav Klose) ศูนย์หน้าทีมชาติ เจอรมานี เชื้อสายโปแลนด์ ยิง 71 ประตูจาก 137 นัด คิดเป็นอัตรา 0.52 ติดอันดับ 14 ของโลก ลีโอเน็ล เม้สซี่ (Lionel Messi) กองหน้าทีมชาติ อารเฆ็นตีนา ยิงไปแล้ว 71 ประตูจาก 142 นัด คิดเป็นอัตรา 0.50 ติดอันดับ 15 ของโลก เปเล่ (Pelé) สุดยอดตำนานแห่งทีมชาติบราซิว ยิง 77 ประตูจาก 92 นัด คิดเป็นอัตรา 0.84
ราดาเม็ล ฟัลเกา (Radamel Falcao) โด่งดังเหลือเกินกับทีมชาติ โกล็อมเบีย แต่ยิงไปแค่ 35 ประตูจาก 91 นัด คิดเป็นอัตรา 0.38 แค่นี้ก็เป็นสถิติแห่งชาติแล้ว ดิดิเอ ดร๊อกบา (Didier Drogba) กองหน้าทีมชาติ โก๊ต ดีวัวร ยังทำได้ดีกว่า ซัดไป 65 ประตูจาก 105 นัด คิดเป็นอัตรา 0.62 ดาวอร ชูเคอร์ (Davor Šuker) ครองสถิติของทีมชาติ โครเอเชีย ยิง 45 ประตูจาก 69 นัด คิดเป็นอัตรา 0.65 แกเร็ธ เบล (Gareth Bale) ครองสถิติของ เวลส์ ด้วยการยิง 33 ประตูจาก 85 นัด คิดเป็นอัตรา 0.39
กองหน้าเด็ดๆเลยต้อง โพล นีลเซิ่น (Poul Nielsen) ศูนย์หน้ายุคสงครามโลก ครั้งที่ 1 ลงสนามในนามทีมชาติ เด็นมาร์ค แค่ 38 นัด ยิงไป 52 ประตู ยิงมากเท่ากับ ยอน เดล โทมัสซ่อน (Jon Dahl Tomasson) ที่ลงสนาม 112 นัด ได้ครองสถิติทั้งคู่ แต่อัตราการยิงของ โพล เป็นนักเตะคนเดียวในโลกที่เกินเฉลี่ยนัดละ 1 ประตู นั่นคือ 1.37
โรเบิร์ต เลวันด๊อฟสกี (Robert Lewandowski) ศูนย์หน้าทีมชาติโปแลนด์ ยิงไปแล้ว 61 ประตูจาก 112 นัด คิดเป็นอัตรา 0.54 ติดอันดับ 25 ของโลก เนย์มาร (Neymar) แห่งทีมชาติบราซิว ยิง 64 ประตูจาก 103 นัด คิดเป็นอัตรา 0.62 ติดอันดับ 23
นักเตะที่ยิงให้ทีมชาติเกินร้อยมีเพียง 2 คนคือ อาลี ดาอี (Ali Daei) ศูนย์หน้าทีมชาติอีหร่าน ยิงได้ 109 ประตูจาก 149 นัด คิดเป็นอัตรา 0.73 เขาเป็นผู้ครองสถิติโลกยิงสูงสุดให้ทีมชาติอยู่ในขณะนี้ แต่เลิกเตะไปแล้ว โดยคนที่ยังมีโอกาสทำสถิติแซงหน้าคือ คริชติอาโน โรเนาโด ยิงไปแล้ว 102 ประตูจาก 168 นัด คิดเป็นอัตรา 0.61 ติดอันดับ 2 ของโลก ขออีกเพียง 8 ประตูในนามทีมชาติ ไม่น่าจะไกลเกินฝัน
คนที่ครองสถิติยิงประตูสูงสุดของชาติตลอดกาล แต่จำนวนประตูน้อยนิดเหลือเกินคือ แกวิน กลินเติ้น (Gavin Glinton) ศูนย์หน้าทีมชาติหมู่เกาะ เทิ้ร์คส แอนด์ เคโค้ส (Turks and Caicos Islands) ดินแดนโพ้นทะเลของ สหราชอาณาจักร ซึ่งความจริงก็มีเกมระดับคัดบอลโลกด้วย เพียงแต่ว่าทีมนี้คงไม่ใช่ทีมแข็งแกร่ง สู้ใครไม่ค่อยได้ ยากมากที่จะได้ประตู ดังนั้น ใครทำประตูได้ก็ขึ้นหิ้งเป็นฮีโร่แห่งชาติไปเลย หมอนี่ยิงได้ 4 ประตูจาก 10 นัด คิดเป็นอัตรา 0.4 ครับ