ก่อนหน้านี้ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ เคยสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศแยกทางกับสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กลายเป็นนักกีฬาอิสระ แต่ก็ฝ่าฟันอุปสรรคจนคว้าแชมป์รายการบาร์เซโลนา มาสเตอร์ 2020 ด้วยการเอาชนะ แชมป์เก่าอย่าง คาโรลินา มาริน
ล่าสุดในรายการ เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัล 2020 ก็หักปากกาเซียนคว่ำรุ่นพี่อย่าง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ และ ไท่ ซื่อหยิง มือ 1 โลกจากไต้หวัน จนทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ กลายเป็นม้ามืดในทัวร์นาเมนต์นี้
นักแบดมินตัน มือวางอันดับ 11 ของโลก เริ่มจับแร็กเกตตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่อยากให้ลูกเป็นนักกีฬา จึงให้การสนับสนุนเต็มที่ ส่งไปเรียนแบดมินตันทุกวัน ฝึกซ้อมที่ จ.ระยอง และกรุงเทพฯ นานกว่า 7 ปี
เมื่ออายุ 11 ปี พรปวีณ์ได้เข้าไปอยู่ในโครงการของ SCG ทำให้มีโอกาสลงแข่งขันรายการใหญ่ๆ และได้รับการทาบทามให้เป็นนักกีฬาเยาวชนในสังกัดของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ทว่า ผลงานของเธอไม่ได้โดดเด่น ช่วง 3-4 ปีภายใต้ปีกของสมาคมลูกขนไก่ทำให้ “เจ้าหมิว” ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราไม่เข้ากับระบบของสมาคมหรือเปล่า”
ทำให้ช่วงกลางปี 2562 พรปวีณ์ ตัดสินใจออกมาเป็นนักกีฬาอิสระ ทำการฝึกซ้อมด้วยตนเอง รวมถึงส่งรายชื่อไปแข่งขัน, จองที่พักและจองตั๋วเครื่องบินเองทั้งหมด โดยที่ไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุน แต่ด้วยความทุ่มเทและตั้งใจ ประกอบกับได้โค้ชคู่ใจอย่าง “โค้ชท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย คอยติวแบบตัวต่อตัว รวมถึงวางแผนในการแข่งขันแต่ละรายการ เวลาเพียงไม่นานเจ้าตัวก็สามารถเรียกฟอร์มที่โดดเด่น กลายเป็นกำลังหลักช่วยทีมหญิงไทย คว้าสิทธิการลงแข่งขัน อูเบอร์ คัพ 2020 ในศึกแบดมินตัน ชิงแชมป์เอเชีย และจบด้วยทีมลูกขนไก่หญิงไทยคว้าอันดับที่ 3 ร่วมมาครอง และโกยความสำเร็จจนขึ้นมารั้งมืออันดับ 11 โลกในปัจจุบัน
สาวน้อยวัย 23 ปี ยอมรับว่า ครอบครัวช่อชูวงศ์ต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาล ปีละ 7 หลัก เพื่อให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จดังที่ผ่านมา แต่ส่วนตัวเธอกลับไม่โทษการตัดสินใจเป็นนักกีฬาอิสระ หรือสมาคมฯ เพราะเธอเชื่อว่ารูปแบบของสมาคมฯ ยังคงมีความเหมาะสมกับนักกีฬาคนอื่นๆ ซึ่งความสำเร็จที่ผ่านมากลายเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก
เป้าหมายหลังจากนี้ ขนไก่มือ 2 ของไทยในขณะนี้ ต้องการไปยืนผงาดในเวทีโอลิมปิก ซึ่งทำให้เธอต้องขับเคี่ยวกับ “ครีม” บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือ 13 โลกในปัจุบัน ว่าใครจะคว้าโควตานักกีฬาหญิงเดี่ยวของไทยไปครอง เมื่อโควตาแรกถูกจับจองด้วย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ไปแล้ว
“ตามกฎของโอลิมปิกจะเอานักกีฬามือ 1-16 โลกไปแข่งขันไม่เกินชาติละ 2 คน ทำให้หลังจากนี้หนูต้องเดินหน้าแข่งอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับโลกของตัวเองไว้ ซึ่งในเดือนมีนาคมจะเริ่มออกทัวร์ยุโรปเพื่อเก็บคะแนนไปโอลิมปิกให้ได้” น้องหมิวกล่าวอย่างมีความหวัง
หลังจากนี้ก็ได้แต่หวังว่า “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะรักษาฟอร์มเก่งและมีความมุ่งมั่นตั้งใจต่อไป เพื่อนำความสำเร็จมาฝากคนไทย ส่วนเป้าหมายต่อไปเธอจะทำได้หรือไม่ก็ต้องคอยจับตาดูกันไปยาวๆ