คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ณ เวลากำลังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ ตรงกับวันที่ 26 มกราคม ค.ศ.2021 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตรงกับวันครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของ โคบี ไบรอันท์ ตำนานแห่ง แอลเอ เลเกอร์ส ด้วยวัยเพียง 41 ปี นำมาซึ่งความเศร้าโศกของบุคคลทั้งในและนอกวงการ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) และแน่นอนว่า หากคุณเปิดเว็บไซต์หรือ โซเชียล มีเดีย ย่อมเห็นเรื่องราวของ โคบี เต็มไปหมด
เหตุการณ์ที่จะมาย้อนความถึง 365 วัน มหาวิปโยค เผยแพร่สู่สาธารณชนมาแล้วครั้งหนึ่ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2020 และเนื่องในวาระพิเศษ เว็บไซต์ “อีเอสพีเอ็น (ESPN)” เจาะลึกรายละเอียดบรรยากาศจริง ขณะรุ่นน้อง เลเกอร์ส ทราบข่าวสะเทือนใจเช่นนี้ เริ่มจาก ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองฟิลาเดลเฟีย เลเกอร์ส เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง 10 วัน ลงแข่งนอกบ้าน 5 เกม แบบข้ามฟากประเทศ ที่ฮุสตัน, บอสตัน, นิว ยอร์ก และ ฟิลาเดลเฟีย
คณะเดินทาง ประกอบด้วย สื่อมวลชน, เจ้าหน้าที่ทีม, สตาฟฟ์โค้ช และ ผู้เล่น แยกสัดส่วนกันตั้งแต่หัวยันท้ายเครื่องบิน เลอบรอน เจมส์ และผองเพื่อน ต่างปิดหน้าต่างลงทันทีเมื่อก้นถึงเบาะเพื่องีบหลับ ทว่ากลับกลายเป็นวันที่ไม่มีใครสามารถข่มตานอนได้ ราว 2-3 ชั่วโมงต่อมา ขณะเครื่องบินลอยอยู่เหนือภูมิภาคมิดเวสต์ ซึ่งประกอบด้วยเมืองสำคัญๆ อย่าง ดีทรอยต์, อินเดียนาโปลิส, มิลวอคกี และ แคนซัส ซิตี ฯลฯ
ขณะ แฟรงค์ โวเกิล เฮดโค้ช กำลังนั่งแก้ไขจุดอ่อน หลังแพ้ ฟิลาเดลเฟีย 91-108 ซึ่งเป็นเกมที่ เลอบรอน ก้าวสู่อันดับ 3 ผู้เล่นทำคะแนนสูงสุดตลอดกาล ณ บ้านเกิดของ โคบี ทันใดนั้น อลิสัน โบกลี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อ เห็นข่าว โคบี ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก จึงติดต่อสอบถามข้อมูล จีนี บัสส์ เจ้าของทีม และได้รับการยืนยันว่า “เป็นความจริง โคบี จากพวกเราไปแล้ว”
เวลาเดียวกันนั้น แอนโธนี เดวิส ซูเปอร์สตาร์อีกราย นอนไม่หลับบนเครื่อง จดจ่ออยู่กับแท็บเล็ตคู่ใจ แล้วเห็นแสงสว่างบนหน้าจอมือถือของเพื่อนๆ ด้วยหางตา แต่ไม่มีอะไรทำให้เขาละทิ้งความสนใจจากภาพยนตร์ “Avengers : Endgame” กระทั่งเพ่งมองไปยัง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด และ เดอมาร์คัส เคาซินส์ โบกมือขัดจังหวะ “ดไวท์ บอกผมว่า โคบี เสียชีวิตแล้ว ผมรู้สึกว่า โคบี ไหน เพราะผมไม่เชื่อว่า จะเป็น โคบี ไบรอันท์”
“เจ้าคิ้ว” เล่าต่อ “ตอนนั้น บรอน (เลอบรอน) ยังหลับอยู่ ผมเกิดอาการประหนึ่งว่า เดี๋ยวก่อน, อะไร, อย่างไร, ผมอยากทราบรายละเอียด บอกผมหน่อย แล้วได้รับคำตอบมาว่า เฮลิคอปเตอร์ตก ผมเขย่าตัว บรอน เหมือนว่า ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว” นับจากนั้น ห้องโดยสารของผู้เล่นอันเงียบกริบ เริ่มอลหม่าน ทุกๆ คนพยายามต่อไว-ไฟบนเครื่อง “ทุกคนตื่นขึ้น พยายามเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ด้วยสมาร์ทโฟน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
จากนั้น จาเหร็ด ดัดลีย์ กลายเป็นขุนพล “ม่วงทอง” คนแรกบนเครื่อง ซึ่งคอมเมนต์เกี่ยวกับโศกนาฎกรรม “บนเครื่องบินโดยสารกลับบ้านเงียบกริบ เป็นวันแสนเศร้าเหลือเกินพี่น้อง โคบี ไบรอันท์ ขอจงสู่สุคติ ขอภาวนาแก่ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักของเขา เรื่องนี้ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นความจริง” และแม้กระทั่ง ฮาวเวิร์ด เซ็นเตอร์ป้องกันยอดเยี่ยม 3 สมัย ที่เคยบาดหมางกันยุค “ซูเปอร์ เลเกอร์ส” ฤดูกาล 2012-13 ยังแอบเข้าห้องน้ำ และร่ำไห้
ความเสียใจของทุกๆ คนบนเครื่อง เป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน บางกลุ่มพยายามปลอบโยนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ จูดี เซโต หัวหน้านักกายภาพบำบัด ซึ่งปัจจุบันถูกเลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสมรรถภาพทางกีฬา ซึ่งมีความสนิทสนทกับ โคบี อย่างลึกซึ้ง และพวกเขาทราบเช่นกันว่า พวกเขาจะต้องลงจอดบนโลก ที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับได้