แวดวงสนุกเกอร์โลกถึงคราวตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อมีดาวรุ่งที่น่าจับตามองถือกำเนิดขึ้นมา โดยหนุ่มน้อยฝีมือเกินตัวรายนี้มีชื่อว่า เหยียน ปิ่งเทา (Yan Bingtao : 颜丙涛) ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นเรียกได้ว่าต้องฝ่าพันชีวิตสุดแสนจะทรหดไม่น้อยเลยทีเดียว
เหยียน ปิ่งเทา สร้างความฮือฮาด้วยการคว้าแชมป์ “เดอะ มาสเตอร์ส” เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ณ สังเวียน มาร์แชลล์ อารีนา เมืองมิลตัน คีนส์ ประเทศอังกฤษ ที่สำคัญเป็นการเอาชนะ จอห์น ฮิกกินส์ มือเก๋าวัย 45 ปี ดีกรีแชมป์โลก 4 สมัยชาวสกอต ไปด้วยสกอร์ 10-8 เฟรม
พร้อมกันนี้แชมป์ดังกล่าวสร้างสถิติส่งให้ เหยียน ปิ่งเทา กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด คือ 20 ปีที่ได้แชมป์ “เดอะ มาสเตอร์ส” นับตั้งแต่ รอนนี โอ'ซุลลิแวน ชาวอังกฤษทำเอาไว้ด้วยวัย 19 ปี เมื่อปี 1995 หรือรอบ 26 ปี และเป็นนักสอยคิวคนที่ 2 ของจีนที่ได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก ติง จวิ้นฮุย ที่ทำเอาไว้เมื่อปี 2011
ผลงานสะเทือนเลื่อนลั่นของ เหยียน ปิ่งเทา ดีกรีมือ 11 ของโลก เข้าหู “เดอะ ร็อกเก็ต” โอ'ซุลลิแวน แชมป์โลก 6 สมัย ที่ชื่นชมผ่าน “ยูโรสปอร์ต” ว่า “ผมคงแปลกใจถ้าเขาไม่ได้เป็นแชมป์โลกสักครั้งหรือสองครั้ง”
เมื่อขุดหัวนอนปลายเท้าพบว่า เส้นทางชีวิตของ เหยียน ปิ่งเทา ก่อนหน้านี้นั้นลำบากไม่น้อย โดยเติบโตจากพื้นเพชนชั้นแรงงานที่ยากจน และเล่นสนุกเกอร์เพื่อช่วยแม่ที่ป่วยโรคมะเร็ง แต่เขาทำอย่างไรตอนนี้ถึงได้กลายเป็นอัจฉริยะด้านกีฬาคนล่าสุดของจีนลองไปดูกัน
เหยียน ปิ่งเทา เกิดที่ จือโป๋ (Zibo : 淄博) ในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เมื่อปี 2000 เพียงแค่ 7 ขวบก็เริ่มจับไม้คิวแล้ว แต่ว่าเป็นไม้ที่ทำจากไม้ไผ่ซึ่งพ่อเป็นคนที่เหลาให้แก่ลูกชาย เพราะเห็นแววในตัวคิดว่าจะเอาดีทางนี้ได้
ทั้งพ่อและแม่ของเหยียน ปิ่งเทา ก็เหมือนครอบครัวส่วนใหญ่ที่จีนคือทุ่มทรัพย์สมบัติที่มีเพื่อเดิมพันอนาคตลูกชายให้เอาดีทางสายกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะหากประสบความสำเร็จก็จะเหมือนพลิกชะตาลืมตาอ้าปากมีชื่อเสียงทางสังคมทันที
เหยียน ตง ผู้เป็นพ่อปรึกษากับภรรยา รวมถึงได้รับคำแนะนำจากเพื่อนก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากโรงงานผลิตยาที่ทำอยู่เพื่อผลักดันลูกชาย เหยียน ปิ่งเทา ให้เอาดีทางด้านสนุกเกอร์ โดยให้ลูกออกจากโรงเรียนและหอบข้าวของเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งทันที
ผู้เป็นพ่อตัดสินใจขายทรัพย์สินส่วนใหญ่ แต่ก็ต้องนำเงินที่ได้มาใช้สอยอย่างประหยัด โดยเช่าห้องเล็กๆ ชานเมืองที่มีเพียงเตียงและโต๊ะราคาต่อเดือนอยู่ที่ 280 หยวนหรือ 45 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,400 บาท) ไม่มีเครื่องทำความร้อนอากาศหนาวคือต้องใส่เสื้อและห่มผ้าทั้งหมดที่มี
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปจนกระทั่งปี 2013 โชคชะตากลั่นแกล้งซ้ำหนักเข้าไปอีกเมื่อแม่ของ เหยียน ปิ่งเทา ป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้เขาตัดสินใจลงแข่งอย่างบ้าคลั่งทุกทัวร์นาเมนต์เพื่อหาเงินทั้งหมดมารักษาแม่
พอได้อายุ 13 ปี ชื่อเสียงของ เหยียน ปิ่งเทา เริ่มเป็นที่รู้จัก พร้อมได้ไวลด์การ์ดลงแข่งระดับอาชีพมากขึ้นจนปี 2014 จุดเปลี่ยนคือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้แชมป์ “เวิลด์ อเมเจอร์ สนุกเกอร์ แชมเปี้ยนชิป”
ในปี 2015 เหยียน ปิ่งเทา ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เดินทางไปฝึกปรือฝีไม้ลายมือที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ จนในที่สุดก็เห็นผลแชมป์ “เดอะ มาสเตอร์ส” ทำให้เขาได้เงินรางวัลก้อนโตมากที่สุดในชีวิตที่เคยได้คือ 350,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11 ล้านบาท)
ตอนนี้เรื่องราวของ “เหยียน ปิ่งเทา” ได้รับการยกย่องในเรื่องของการเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อดทนทุ่มเทจนประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เขาและผู้เล่นจีนหลายคนที่มีเบื้องหลังอันดรามา แม้แต่นักสนุกเกอร์ต่างประเทศหลายต่อหลายคนก็มีชีวิตที่ปากกัดตีนถีบก่อนที่จะสร้างชื่อมีชื่อเสียงขึ้นมา
ทั้งหมดนี้บรรดาสื่อจึงตั้งฉายาให้แก่ “เหยียน ปิ่งเทา” ว่า “The Chinese Tiger” คงจะเพราะความใจสู้ไม่ยอมแพ้หรือประหนึ่งว่า “เสืออยู่ที่ไหนก็คือเสือ” ขอแค่รอเวลาเท่านั้นและเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง “เสือจีน” ตัวนี้ก็พร้อมที่จะผงาดขึ้นมา