นอกจากผลงานบนสนามที่น่าผิดหวัง รายงานจากสื่ออังกฤษยังระบุว่า สาเหตที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด กระเด็นพ้นเก้าอี้ผู้จัดการทีม มีเรื่องของความบาดหมางระหว่างตัวเขากับบอร์ดบริหาร และนักเตะ เป็นอีกหนึ่งสาเหตสำคัญ
กุนซือวัย 42 ปี ถูกปลดพ้นตำแหน่ง สังเวยผลงานน่าผิดหวัง ลงสนามเตะ พรีเมียร์ ลีก 8 นัดหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ถึง 5 เกม จนอันดับกราวรูดหล่นไปอยู่ที่ 9 ของตาราง แม้ยังมีลุ้นถ้วย เอฟเอ คัพ ที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็ช่วยยื้อไม่ได้
รายงานของ ดิ แอธเลติก เผยอีกว่า ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ร้าวฉานหลังฉากระหว่างเจ้าตัวกับบอร์ดบริหาร เป็นอีกหนึ่งปัจจัย โดยรายงานระบุว่า แลมพาร์ด ขัดแย้งกับ มาริน่า กรานอฟสเกีย ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายนักเตะ
จุดเริ่มต้นมาจาก แลมพาร์ด จัดการดร็อป เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายประตูชาวสแปนิช เป็นแค่ตัวสำรอง ทั้งที่ทีมซื้อมาแพงระยิบ 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,950 ล้านบาท) จากแอธเลติก บิลเบา หลังทำผลงานผิดพลาดเสียประตูบ่อยในช่วงที่เจ้าตัวเข้ามาคุมทีมใหม่ๆ
กรานอฟสเกีย คนที่ดูแลดีลซื้อตัว เกปา เข้ามาร่วมทีม พยายามเกลี้ยกล่อมให้ แลมพาร์ด ส่งเจ้าตัวลงสนามสร้างความเชื่อมั่น แต่อดีตกัปตัน “สิงห์บลูส์” ไม่เห็นด้วย ก่อนเอาตัว เอดูอาร์ด เมนดี มือกาวจาก แรนส์ มายึดตำแหน่งตัวจริง
และนั่นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ฝ่าย ทั้ง กรานอฟสเกีย แลมพาร์ด และ เกปา เลวร้ายลง ขณะเดียวกัน เจ้าตัวยังต้องการให้บอร์ดบริหารอนุมัติเงินเพื่อซื้อ เดแคลน ไรซ์ จาก เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด แต่บอร์ดไม่เห็นด้วย เพราะมีราคาแพงเกินกว่า 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,867 ล้านบาท)
ไม่เพียงเท่านั้น แลมพาร์ด ยังทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวแย่ลง หลังมีการเปิดเผยว่า เขามักใช้คำวิจารณ์ที่รุนแรงต่อนักเตะจนมีหลายคนรับไม่ได้และรู้สึกเจ็บปวด เกิดความไม่พอใจภายใน และเกมที่พ่ายแพ้ เลสเตอร์ ซิตี 0-2 ในลีก ก็คือ ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างเขากับบอร์ดบริหาร
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เชลซี วางแผนดึงตัวผู้จัดการทีมระดับไฮโปรไฟล์ มาทำงานโดยเร็วที่สุด ซึ่งคนที่พัวพันก็คือ โธมัส ทูเคิล อดีตกุนซือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่เข็นทีมเข้าชิงถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปีที่แล้ว แต่ได้รองแชมป์ และตกงานในเวลาต่อมา