เหลือเวลาอีก 6 เดือน มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเลื่อนมาจากปี 2020 ก็จะเกิดขึ้น ทว่าก็มีคำถามมากมายว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งมีแนวโน้มสูงลิ่วว่าอาจต้องเลื่อนอีกครั้ง หรือโชคร้ายคือยกเลิกไปเลย
กรุงโตเกียว เจ้าภาพ โอลิมปิก ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 23 กรกฏาคม หมายมั่นปั้นมือยิ่งที่จะนำ "เปลวเพลิงแห่งโอลิมปิก" จุดขึ้นให้ได้ภายในปีนี้ แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ดูห่างไกลเสียเหลือเกินเพราะการระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่ทุเลาในประเทศ
ความกลัวก่อเกิดในใจของประชาชนชาวญี่ปุ่น พวกเขามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้ โทชิโร่ มุโต้ ซีอีโอของ โอลิมปิก ญี่ปุ่น จะมั่นใจว่าพวกเขาจะดำเนินการจัดมหกรรมกีฬาห้าห่วงได้ในปีนี้ พร้อมอ้าแขนรับนักกีฬาจากนานาชาติ ทั่วทุกทวีป มาร่วมสังเวียนชิงชัย
การลงคะแนนโหวตรอบล่าสุดของชาวญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา กว่า 80% ลงความเห็นพ้องกันว่าควรยกเลิก หรือเลื่อนไปก่อน ซึ่งก็สอดคล้องกับความเห็นของ คีธ มิลส์ อดีตรองประธานจัด โอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน อังกฤษ ที่คิดว่ายังไงเสีย ญี่ปุ่น ก็ไม่มีทางจัดแข่งได้ในปีนี้
"ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่" คีธ มิลส์ เปิดเผย ส่วน แม็ทธิว ปินเซนต์ ตำนานเหรียญทองกีฬาเรือพายของอังกฤษ ก็มองว่าเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดีถ้า ญี่ปุ่น ดันทุรังจัดโอลิมปิกต่อไปท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสที่ยังควบคุมไม่ได้
ญี่ปุ่น ยอมถอยหลัง 1 ก้าวเมื่อ โอลิมปิก 2020 ต้องเลื่อนจากปีที่แล้วเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะเดียวกัน ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพน ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าการนำนักกีฬามากักตัวก่อนแข่ง 14 วัน มีเรื่องวุ่นวายให้ตามแก้ไขกันทุกวัน
ญี่ปุ่น เวลานี้แบกรับหนี้ก้อนโตจากการเลื่อนแข่ง โอลิมปิก จากเดิม 2,800 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ก็มียอดเพิ่มขึ้นเป็น 15,800 ล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว แน่นอนว่าหากเลื่อนหรือยกเลิก เศรษฐกิจในประเทศจะทรุดตัวลงอย่างรุนแรงในระยะยาวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ระบุว่าตอนนี้พวกเขายังไม่มีแผนการสำรอง ที่หมายถึงการล้มเลิกหรือเลื่อนแข่ง โอลิมปิก เช่นเดียวกับทางเจ้าภาพ ที่เชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดีเมื่อวัคซีนป้องกันเชื้อจากผู้ผลิตเจ้าต่างๆ เริ่มกระจายไปทั่วโลก
ความหวังเดียวของพวกเขาในยามนี้คือการให้ประชาชนเดินหน้าเข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะได้รับครบทุกคนภายในเดือนพฤษภาคม กระนั้นด้วยเวลากระชั้นชิดแค่ 2 เดือนก่อนถึงวันแข่ง ก็ยังต้องจับตาดูกันต่อว่าสุดท้ายมันจะจบลงแบบไหน