คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ไฮไลท์สำคัญศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เพลย์ออฟ สัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นการแข่งขันของสาย เอ็นเอฟซี (NFC) ระหว่าง แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส พบ นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ที่สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซูเปอร์โดม ช่วงเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 18 มกราคม ตามเวลาไทย (06.40น.) ซึ่งเป็นการปะทะกันของ 2 ควอเตอร์แบ็กรุ่นลายคราม ทอม เบรดี VS ดรูว์ บรีส์
ด้วยความเป็นคู่ปรับของดิวิชัน NFC ใต้ จอมทัพทั้ง 2 เคยประมือกันมาแล้ว 2 ยก ช่วงฤดูกาลปกติ ปรากฏว่า เบรดี วัย 43 ปี พ่ายแพ้แบบไป-กลับ เกมเปิดซีซัน วันที่ 14 กันยายน เบรดี เสีย 2 อินเทอร์เซปต์ พ่ายคาบ้าน 23-34 ที่เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน พบความปราชัยย่อยยับสุด 3-38 และเรตติงการขว้างห่วยสุดอันดับ 3 (40.4) ตลอดอาชีพ 21 ปี ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซูเปอร์โดม
เทียบผลงานแบบ เฮด-ทู-เฮด เบรดี ยึดตัวจริงเกมแรก สัปดาห์ที่ 3 ของฤดูกาล 2001 เพียง 1 ปี นับตั้งแต่ถูกดราฟต์รอบ 6 จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน กระทั่งปัจจุบัน ขว้างระยะสูงสุดอันดับ 2 ตลอดกาล 79,204 หลา จาก 299 เกม เฉพาะเรกูลาร์ ซีซัน ขณะที่ บรีส์ ถูก ซาน ดีเอโก ชาร์เจอร์ส คัดเลือกรอบ 2 จากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู รับบทตัวจริงทันที ก่อนย้ายมา เซนต์ส ปี 2006 ขว้างได้ระยะมากสุดอันดับ 1 ตลอดกาล 80,358 หลา จาก 286 เกม หักลบตามหลักคณิตศาสตร์ บ่งชี้ว่า บรีส์ เฉือนไปแบบหวุดหวิด ทำระยะมากกว่า 1,154 หลา โดยขว้างน้อยกว่า 47 ครั้ง (10,598-10,551)
พิจารณาด้านความแม่นยำ เบรดี ครองอันดับ 1 เปอร์เซ็นต์คอมพลีตแค่ 1 ครั้ง 68.9 เมื่อปี 2007 ขณะที่ บรีส์ เป็นแชมป์เปอร์เซ็นต์คอมพลีตมาหลายสมัย ปี 2009 (70.6), 2010 (68.1), 2011 (71.2), 2017 (72), 2018 (74.4) และ 2019 (74.3) สำหรับฤดูกาล 2020 บรีส์ ก็ยังเหนือกว่า ขว้างบอลเข้าเป้า 70.5 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ เบรดี แค่ 65.7 เปอร์เซ็นต์
ด้านการทำสกอร์ ตัวเลขถือว่าใกล้เคียงกัน เบรดี เหนือกว่าเล็กน้อย581-571 ทัชดาวน์ ตลอดอาชีพ หากเพ่งมองให้ลึกหน่อย พบว่า ทั้งคู่ขว้างทัชดาวน์ เฉพาะ1 ซีซันมากสุด คนละ 4 สมัย โดยสถิติดีสุดของ เบรดี ทำไว้ 50 ทัชดาวน์ ปี 2007 เทียบกับ บรีส์ 46 ทัชดาวน์ ปี 2011ส่วนฤดูกาลล่าสุด เบรดี จบด้วย 40 ทัชดาวน์ จาก 16 เกม แต่ บรีส์ ซึ่งมีปัญหาเจ็บชายโครง กลางเดือนพฤศจิกายน จึงทำได้แค่ 24 ทัชดาวน์ จาก 12 เกม
สิ่งที่แฟนๆ อย่างเราจะยกย่องผู้เล่นคนใดว่า สุดยอดตลอดกาล ย่อมดูจากคนที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เมื่อถึงเวลาจำเป็นสุดๆ เบรดี เหนือกว่าด้วยการร่วมงาน บิลล์ เบลิชิก เฮดโค้ชระดับตำนาน พา “นักรบกู้ชาติ” คว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล 6 จาก 9 ครั้ง พ่วงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ 4 สมัย ขณะเดียวกัน บรีส์ ทะลุถึงรอบชิงฯ แค่ครั้งเดียว หยิบโทรฟี “วินซ์ ลอมบาร์ดี” และ MVP ซูเปอร์โบว์ล ปี 2010 ตามสถิติลงเล่นเพลย์ออฟ ทั้งคู่แตกต่างกันลิบลับ เบรดี ชนะ 31 แพ้ 11 และ บรีส์ ทำได้เพียงชนะ 9 แพ้ 8
ส่วนการขับเคลื่อนทีมบุกภาวะวิกฤติ เบรดี สร้างไดรฟ์การบุกสู่ชัยชนะสูงสุด 13 ครั้ง และพลิกสถานการณ์ควอเตอร์สุดท้าย 9 ครั้ง แน่นอนว่ากินขาด บรีส์ ซึ่งลงเล่นช่วงโพสต์ซีซันแค่ 17 เกม สร้างไดรฟ์การบุกสู่ชัยชนะ 3 ครั้ง และพลิกสถานการณ์ควอเตอร์สุดท้าย2 ครั้ง หากมองภาพรวม เบรดี สร้างสถิติคัมแบ็กควอเตอร์ 4 ตลอดอาชีพ 39 ครั้ง รองจาก เพย์ตัน แมนนิง (43 ครั้ง) และ บรีส์ รั้งอันดับ 3 ตลอดกาล 36 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2001-ปัจจุบัน
ถึงเวลาที่ยากสุดของรายการ คือ สรุปว่าใครสุดยอดกว่ากัน อาจเกิดการโต้เถียงแบบไม่มีวันจบสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นส่วนบุคคล ควอเตอร์แบ็กที่ประสบความสำเร็จมากกว่า อาจเพราะอยู่ในทีมที่มีองค์ประกอบดีกว่า อาทิ เพื่อนร่วมทีม, คู่ต่อสู้ และโค้ช ส่วนควอเตอร์แบ็กที่ขว้างได้ระยะ กับ เปอร์เซ็นต์คอมพลีตมากกว่า ก็ใช่ว่าจะด้อยกว่า หากจะตัดสินผู้ชนะ ต้องขออ้างอิงแฮนดิแคปว่า นิว ออร์ลีนส์ เหนือกว่าราวๆ 4 แต้ม แต่ถ้า แทมปา เบย์ ชนะ คงไม่ใช่เรื่องพลิกล็อกมากมาย
