เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เปรียบสถิติจุดโทษกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนฟาดแข้งกัน ที่สนามแอนฟิลด์ หลังพ่าย เซาแธมป์ตัน 0-1 ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 4 มกราคม
แดนนี อิงส์ กองหน้าจอมขยัน แผลงฤทธิ์ใส่ทีมเก่า พังประตูชัยตั้งแต่นาที 2 จบสถิติไร้พ่าย 12 เกมของ “หงส์แดง” เฉพาะลีกสูงสุด
บิ๊กบอสชาวเยอรมัน โอดครวญลูกทีมถูกปฏิเสธจุดโทษ 2 ครั้ง ช่วงครึ่งหลัง ซาดิโอ มาเน ถูก ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส เบียดล้มลง และ แจ็ค สตีเฟนส์ ใช้แขนบล็อกลูกยิง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
แชมป์เก่า ยังคงยึดจ่าฝูงด้วยผลต่างลูกได้-เสียทีดีกว่า แต่อาจเสียบัลลังก์ก่อนคิกออฟแมตช์ “แดงเดือด” วันที่ 17 มกราคม กรณี ยูไนเต็ด เก็บอย่างน้อย 1 แต้ม จากเกมตกค้าง พบ เบิร์นลีย์ (12 ม.ค.)
คล็อปป์ วัย 54 ปี เปิดสงครามจิตวิทยา ตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน มักเป่าจุดโทษแก่ “ปิศาจแดง” ช่วง 2 ปีล่าสุด มากกว่าระยะเวลาที่ตนคุมทีม 5 ปีครึ่ง
อดีตเทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าว “หากใครก็ตามพูดว่า ซาดิโอ มาเน เป็นจอมพุ่ง มันเป็นเรื่องตลกที่สุดของโลก เด็กคนนี้พยายามทรงตัวด้วยทุกอย่างที่เขามี หากเปรียบเทียบ 2 สถานการณ์ ทีมอื่นๆ น่าจะได้จุดโทษแล้ว จากนั้นก็ลูกแฮนด์บอล ผมไม่รู้ว่าใครจะอธิบายให้พังได้”
“เราอยู่ในจุดที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจน (กรณี มาเน) และมันเป็นจุดโทษแน่นอน ผมประท้วงผู้ตัดสินที่ 4 แล้วถามว่าควรจะตรวจสอบด้วย VAR เขาบอกว่ามีการรีวิวแล้ว และมันไม่ใช่จุดโทษ”
“ตอนได้จุดโทษในเกมพบ เลสเตอร์ ซิตี ฤดูกาลที่แล้ว ใครๆ พูดว่า ซาดิโอ มาเน ล้มง่าย หากเขาล้มง่ายจริง เราก็ควรได้จุดโทษเกมนี้ แต่ อังเดร มาริเนอร์ ทำอะไรกับ ซาดิโอ มาเน ผมไม่แน่ใจว่ามันเหมาะสม”
“เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ตอนนี้ผมได้ยินว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มากกว่าที่ผมได้ตลอดการคุมทีม 5 ปีครึ่ง ผมไม่มีความเห็นใดๆ หากนั่นเป็นความผิดของผม หรือมันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว เราเคารพการตัดสิน แต่เราสามารถแก้ไขผลงานของเราได้ นั่นคือเป้าหมายของเรา”
