ไทยเตรียมจัดแข่ง “นกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5” ชิงเงินรวมกว่า 35.3 ล้านบาท 39 ชาติทั่วโลก แห่ส่งนกร่วมชิงชัยมากถึง 7 พันตัว ภายใต้มาตรการณ์เข้มปลอดโควิด-19 ระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.63 ถึง 9 ม.ค.64 จาก39 ประเทศทั่วโลก
เมืองพัทยา ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ (PIPR) ผนึกกำลังจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัลรวม 35.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.63 ถึง 9 ม.ค.64 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ยุค New Normal โดยผู้ชิงชัย 39 ชาติจากทั่วโลก ส่งนกร่วมประลองมากถึง 7,401 ตัว
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ณ Meeting Room 1-3 Iconsiam ชั้น 5 นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด พร้อมด้วย นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา และ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัลรวม 35.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.63 ถึง 9 ม.ค.64
นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ ตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้สนใจและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยปีนี้มีนกพิราบเข้าแข่งขันมากถึง 7,401 ตัว จาก 39 ประเทศทั่วโลก นำโดย คูเวต ไทย และจีน เป็นต้น ซึ่งการจัดการแข่งขันในปีนี้เราได้จัดภายใต้มาตรการ New Normal ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ตามที่รัฐบาลกำหนดห้ามมิให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในปัจจุบัน โดยมีขั้นตอนต่างๆ ไล่ตั้งแต่ ให้ผู้เข้าแข่งขันตรวจสุขภาพนกพิราบโดยสัตวแพทย์ที่ได้รับการรับรองของประเทศนั้นๆ ก่อนนำส่งทางเครื่องบินมาประเทศไทย ต่อด้วยเข้ากรงกักกันที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งตลอดระยะเวลาการเลี้ยงและฝึกซ้อมนกพิราบแข่ง จะมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์เข้าตรวจสุขภาพนกพิราบแข่งตามโปรแกรม ที่สำคัญเราได้ใช้อุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการอ่านห่วงขาอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดไว้กับนกพิราบทุกตัวในการตัดสิน ผู้ส่งนกพิราบแข่งจึงสามารถตรวจสอบผลการแข่งขันได้เรียลไทม์ผ่านทางเว็บไซต์ รวมทั้งติดตามการถ่ายทอดสดการปล่อยนกและภาพนกบินกลับกรงได้อีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างแน่นอน
ด้านนายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ ได้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วทุกทวีปให้เข้ามาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยาและประเทศไทยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ในจังหวัดพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง ถือเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้คนในท้องถิ่น พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ ที่สำคัญยังช่วยปลุกกระแสการเลี้ยงนกพิราบในประเทศไทย และช่วยสนับสนุนเยาวชนให้สนใจการเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาจากเสพติด ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงนกพิราบ และวิธีป้องกันโรคที่ถูกต้อง ซึ่งในปีนี้แม้จะเจอสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังได้รับการตอบรับจากนานาชาติรวมถึงผู้เลี้ยงนกพิราบในประเทศไทยอย่างล้นหลามเช่นเดิม ทางพัทยาในฐานะเจ้าบ้านขอยืนยันว่าจะดูแลการแข่งขันให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งนกพิราบมาร่วมชิงชัยและขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจมาร่วมติดตามการแข่งขันในครั้งนี้ไปด้วยกัน
นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ กล่าวว่า ในฐานะนายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ ผมมีความยินดีและขอให้การสนับสนุนบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด ในการจัดแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 ดังเช่นที่เคยให้การสนับสนุนมาโดยตลอดทุกปี ขอให้บริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด ประสบความสำเร็จในการจัดแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา ครั้งที่ 5 นี้ ขอเชิญชวนนักเลี้ยงนกชาวไทยและแขกผู้มีเกียรติ รวมทั้งสื่อมวลชนทุกท่าน มาร่วมสนุกและลุ้นไปด้วยกัน ในวันที่ 9 มกราคม 2564 ว่า นกของใคร ชาติใดจะได้เป็นแชมป์ในปีนี้
สำหรับการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 แบ่งการชิงชัยเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ระยะทาง 530 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เริ่มต้นที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี, ระยะทาง 430 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เริ่มต้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ระยะทาง 330 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เริ่มต้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยทั้ง 3 ระยะทาง จะถึงจุดสิ้นสุด ณ สำนักงานใหญ่บริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และการแข่งขันนกยอดเยี่ยม ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ระยะทางสะสมตั้งแต่ 330 - 530 กิโลเมตร ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pattayaoneloftrace.com