“เอเชียน ดิเวลล็อปเมนท์ ทัวร์” เวทีปั้นดาวดวงใหม่สู่วงการกอล์ฟโลก

กอล์ฟเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ หรือ เอดีที เป็นทัวร์ที่มีความแข็งแกร่งและเป็นทัวร์อันดับสองของเอเชียน ทัวร์ ที่มีชื่อเสียงโดดเด่น ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของทัวร์และจำนวนโปรแกรมการแข่งขันที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังถือเป็นเวทีแห่งการปั้นดาวดวงใหม่สู่วงการกีฬากอล์ฟโลก และเป็นเวทีการแข่งขันที่สมาชิกในทัวร์ต่างรอคอยที่จะได้กลับมาลงแข่งอีกครั้งในสไตล์ นิว นอร์มอล หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19

เอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เป็นทัวร์อันดับสองภูมิภาคควบคู่ไปกับเอเชียนทัวร์ โดยจัดหาโปรแกรมการแข่งขันเพื่อสนับสนุนและเป็นสะพานสู่เวทีใหญ่ ที่ให้โอกาสนักกอล์ฟหน้าใหม่ทั้งในเอเชียและจากทั่วโลกได้พัฒนาฝีมือรวมทั้งได้ประสบการณ์

การให้สิทธิ์นักกอล์ฟใน 7 อันดับแรกของอันดับทำเงินรางวัลเอดีที หรือออร์เดอร์ ออฟ เมอริต เมื่อจบฤดูกาลได้ตั๋วเข้าไปเล่นในเอเชียน ทัวร์ และมีคะแนนสะสมการจัดอันดับกอล์ฟโลกทุกรายการ เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจสําหรับนักกอล์ฟที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพให้เข้ามาเล่นในทัวร์

โดยเมื่อปีที่แล้ว เอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ มีโปรแกรมการแข่งขัน 19 รายการ ชิงเงินรางวัลรวม 1.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2015 ถือเป็นปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งทัวร์มาด้วยสถิติการชิงชัย 28 ทัวร์นาเมนต์ โดยมีเงินรางวัลรวม 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

บรรดานักกอล์ฟที่สร้างชื่อเสียงจากเวทีเอเชียนดีเวลล็อปเมนท์ทัวร์ ได้เผยถึงความสำคัญของทัวร์ที่มีต่อความสำเร็จพวกเขา เริ่มจาก คิม จูฮยอง จากเกาหลีใต้ ที่คว้าตั๋วเลื่อนชั้นไปเล่นในเอเชียน ทัวร์ เมื่อปีที่แล้วด้วยผลงานที่โดดเด่น จากการคว้าแชมป์ 3 รายการ ในเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ สร้างความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจให้กับทัวร์ที่ได้ค้นพบความสามารถและพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ของโปรดาวรุ่งจากแดนกิมจิผู้นี้ จนก้าวขึ้นมาประดับวงการเพิ่มขึ้นอีกคน

สำหรับ คิม จูฮยอง ปัจจุบันอายุ 18 ปี แต่สร้างชื่อกระหึ่มในวัย 17 ปี เมื่อทำผลงานคว้า 3 แชมป์ในเวทีเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ เมื่อปีที่แล้ว และปีนี้โปรกอล์ฟดาวรุ่งฟอร์มแรงจากเกาหลีใต้ยังได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในศึกเมเจอร์ รายการยูเอส พีจีเอแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นรายการระดับเมเจอร์และรายการพีจีเอทัวร์ ครั้งแรก

นอกเหนือจาก คิม จูฮยอง ยังมีนักกอล์ฟอีกหลายคนสร้างชื่อขึ้นมาจากเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ ก่อนไปประสบความสำเร็จในเวทีใหญ่ แต่ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดน่าจะเป็น จอห์น คัทลิน โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ที่ผงาดคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์ 2 รายการเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ คือรายการ เอสเตรลลา ดัมม์ เอ็น เอ อันดาลูเซีย มาสเตอร์ส และดูไบ ดิวตี้ ฟรี ไอริช โอเพ่น

โปรกอล์ฟจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่หัวหิน ประเทศไทย เริ่มต้นจากเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ โดยคว้าแชมป์รายการแรกได้ที่อินโดนีเซีย ในปี 2016 จากนั้นไปได้แชมป์รายการพีจีเอ็ม ยูเรเชีย เปอรัค แชมเปียนชิพ ที่มาเลเซีย ในปีถัดมา ซึ่งในขณะนั้นนักกอล์ฟที่ทำผลงานจบฤดูกาลใน 5 อันดับแรกของตารางทำงานรางวัล จะได้ทัวร์การ์ดผ่านเข้าไปเล่นในเอเชียน ทัวร์

เมื่อเข้ามาเล่นในเอเชียน ทัวร์ คัทลินยังทำผลงานโดดเด่น คว้าแชมป์ 4 รายการ ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ 3 รายการในปี 2018 และได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมทัวร์ให้คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชียน ทัวร์ ไปครอง นอกจากนี้เขายังจบอันดับ 2 ในการแข่งขันรายการบุญชู เรืองกิจ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเป็นการแข่งขันรายการเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ รายการเดียวแข่งขันในปีนี้ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยพ่ายต่อ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ โปรกอล์ฟแถวหน้าของไทย ซึ่งชัยชนะดังกล่าวทำให้ปวิธกลายเป็นผู้เล่นที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ ด้วยสถิติคว้าชัยชนะ 7 ครั้ง

สำหรับ ปวิธ นั้นคว้าแชมป์ในเอเชียนทัวร์ 2 รายการ และเป็นมือพระกาฬในเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ โดยเฉพาะในปี 2014 กวาดแชมป์ได้ถึง 4 รายการ และยังครองตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุด ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “ผมนับถือ เอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ อย่างมาก ทัวร์มีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ผมเข้ามาเล่นในเอเชียนทัวร์ได้ โดยได้ตั๋วจากเวทีเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ และเป็นสิ่งที่ผมจำได้เสมอไม่เคยลืม เอเชียน ดิเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ ให้โอกาสผมในการพัฒนาเกมการเล่นจนมาอยู่ในระดับนี้ ผมได้รับประสบการณ์มากมายระหว่างร่วมแข่งขันในทัวร์และรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทั้งดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์และทัวร์หลัก ประสบการณ์จากดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ ช่วยให้ผมสามารถรักษาเกมการเล่นไว้ในระดับสูง ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนต้องมาลอง เพราะเป็นทัวร์ที่มีคุณภาพจริงๆ” ปวิธ กล่าว

ด้าน แดนนี มาสริน โปรกอล์ฟดาวรุ่งจากอินโดนีเซีย ที่เริ่มโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาช่วงต้นฤดูกาลนี้ กล่าวว่า ช่วงเวลาและประสบการณ์จากเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเกมการเล่นของตน

ส่วนสําคัญอีกหนึ่งความสําเร็จของเอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ ทัวร์ คือการสานสัมพันธ์ความร่วมมือจัดการแข่งขันรายการโคแชงชั่นร่วมกับทัวร์ของแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการจัดการแข่งขันเป็นประจำร่วมกับ พีจีเอ็ม มาเลเซีย, โปรเฟสชั่นแนล กอล์ฟ ทัวร์ ออฟ อินโดนีเซีย, ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์, ไต้หวัน พีจีเอ และเคยจัดการแข่งขันที่บังคลาเทศ, บรูไน และปากีสถาน