จัสติน เฮอร์เบิร์ต ควอเตอร์แบ็กรุกกี แอลเอ ชาร์เจอร์ส พาทีมเก็บชัยเกมที่ 2 ติดต่อกัน เอาชนะ ลาส เวกัส เรดเดอร์ส หวุดหวิด 30-27 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนาม อัลลีไจแอนท์ สเตเดียม วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม
เฮอร์เบิร์ต ดราฟต์อันดับ 6 เสียฟัมเบิลตรงเอนด์ โซน ขณะมุดแนวป้องกัน กาเบ เนเบอร์ส ฟูลแบ็กเพื่อนร่วมทีม ตะครุบได้ ทว่าตามกฎระบุ มีเพียงคนเสียฟัมเบิล (ทำบอลหลุดมือ) ที่สามารถตามเก็บบอล เฉพาะช่วง 2 นาทีสุดท้ายของครึ่ง ต้องถอยกลับมาเล่นใหม่ที่เส้น 1 หลา
ปรากฏว่า เฮอร์เบิร์ต ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน เหยียดแขนถือบอลพุ่งข้ามแนวป้องกัน ทำทัชดาวน์ตัดสินเกม หยุดสถิติแพ้ 9 เกมรวด เฉพาะการดวลกับทีมร่วมดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) ตะวันตก นับตั้งแต่เอาชนะ เดนเวอร์ บรองโกส์ เกมปิดฤดูกาล 2018
เกมนี้ เฮอร์เบิร์ต วัย 22 ปี ปาบอลเข้าเป้า 22 จาก 32 ครั้ง (คิดเป็น 68.75 เปอร์เซ็นต์) ระยะ 314 หลา 2 ทัชดาวน์ รวม 27 ทัชดาวน์ ตลอดซีซันนี้ ทาบสถิติรุกกี NFL ของ เบเกอร์ เมย์ฟิลด์ จอมทัพ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ที่ทำไว้ฤดูกาล 2018
เฮอร์เบิร์ต ขับเคลื่อนทีมบุก ตั้งระยะให้ ไมเคิล แบดจ์ลีย์ เตะ 2 ฟิลด์โกล ระยะ 47 กับ 51 หลา เพื่อขึ้นนำท้ายควอเตอร์ 4 ทว่าพลาดหมด กลายเป็นผู้เล่นที่เตะฟิลด์โกลไม่เข้าสูงสุดของลีก 9 ครั้ง เป็นเหตุให้ต้องสู้กันถึงช่วงต่อเวลา
