คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
เมื่อช่วง "ฟีฟ่า เดย์" ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ มีการอุ่นเครื่อง 1 นัด โดยเลือกไปแข่งขันกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ซึ่งด้วยปัญหาจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด และไม่ปลอดภัย จึงมีการตัดสินใจไม่เรียก 4 นักเตะจากเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เนื่องจากติดเงื่อนไขยุ่งยากต้องกักตัวทั้งไปกลับ
เช่นเดียวกับการที่ไทยลีก มีนัดตกค้างของ 4 สโมสร ประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , บีจี ปทุม ยูไนเต็ด , ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จึงไม่เรียกนักฟุตบอลจาก 4 ทีมนี้มา จึงเป็นโอกาสที่ นิชิโนะ จะได้เรียกนักฟุตบอลที่ฟอร์มดี แต่ไม่เคยหรือไม่ค่อยได้รับโอกาสมาดูฟอร์ม
โดยในส่วนของตำแหน่งผู้รักษาประตู เรียกมาทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย สรานนท์ อนุอินทร์ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ปฏิวัติ คำไหม สโมสร สมุทรปราการ ซิตี้ และ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ สโมสร สุโขทัย เอฟซี ซึ่งแต่ละคนก็มีดีแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตามสำหรับทีมชาติไทย ชุดใหญ่แล้ว หากว่าเอากันตามตรงไม่มีใครเจ็บ ใครป่วย ก็มี 3 คนที่น่าจะแบเบอร์อยู่แล้วอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน วัย 36 ปี จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ฉัตรชัย บุตรพรหม วัย 33 ปี จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ วัย 30 ปี จาก ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
ซึ่งใน 3 คนนี้ กวินทร์ เป็นคนที่ได้รับโอกาสลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่สูงที่สุด 67 นัด โดยนัดแรกติดทีมชาติยุค ไบรอัน ร็อบสัน ด้วยวัย 19 ปี 11 เดือน 25 วัน ถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมากในยุคนั้น ขณะที่อีก 2 คน ติดทีมชาติน้อยกว่า ศิวรักษ์ ติด 23 นัด ส่วน ฉัตรชัย ยิ่งแล้วใหญ่ ติดแค่ 9 นัดเท่านั้น
ทว่าหากดูสถานการณ์ของ 3 ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ตอนนี้ คนที่เสียเปรียบที่สุดคือ กวินทร์ เพราะเขาไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในสโมสรได้ และไม่ได้ลงสนามมานานมากแล้ว ผิดกับ ศิวรักษ์ และ ฉัตรชัย ที่เป็นตัวหลักของสโมสร และยังโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ กระแทกตาทีมงาน "ช้างศึก" เป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในรายของ ฉัตรชัย นั้น ล่าสุดเขายังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม TOYOTA Player of the month ประจำเดือนกันยายน ของไทยลีก จากผลงานไม่เสียประตูเลยใน 2 นัด ขณะที่ตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2020 นายทวารขวัญใจแฟนบอล มาเลเซีย รายนี้เสียไปแค่ 2 ประตูจาก 8 นัดที่ลงสนาม ส่วน ศิวรักษ์ แม้ฤดูกาลนี้จะโดนไปแล้ว 7 ประตู แต่ 3 นัดหลังเบรกหนีไวรัสโควิด-19 กลับมาก็จัดว่าเหนียบหนึบเอามากๆ เพราะเสียไปแค่เพียงประตูเดียวเท่านั้น
แต่ก็ใช่ว่า กวินทร์ จะปิดประตูชิงมือ 1 เสียทีเดียว เพราะโปรแกรมของทีมชาติไทย นั้น ยังไม่ชัดว่าจะแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย อีก 3 นัดกับ อินโดนีเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ มาเลเซีย ช่วงไหน หากว่าจริงดั่งลือในเดือนมีนาคม 2021 ก็ดูเหมือนว่า กวินทร์ ยังมีลุ้น หากหมดสัญญายืมตัวกับ ซัปโปโร เดือนธันวาคมนี้ แล้วกลับสู่สโมสรในไทยลีก เลกที่ 2 ด้วยสัญญายืมตัวจาก โอเอช ลูเวิน อีกครั้ง ระยะเวลาที่เหลือน่าจะพอเรียกฟอร์มกลับมาได้เหมือนกัน
อีกทั้งยังมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือ AFF Suzuku Cup 2020 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 เมษายน - 8 พฤษภาคม ปีหน้าอีก เอาเป็นว่าตอนนี้เรามีผู้รักษาประตูมือดีตั้ง 3 คนให้ นิชิโนะ และทีมงานได้ปวดหัวเล่นว่าจะเลือกใครดี