เดนเวอร์ บรองโกส์ หยุดสถิติปราชัย 3 เกมรวด นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2020 เอาชนะ นิว ยอร์ก เจ็ตส์ หวุดหวิด 37-28 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่เม็ตไลฟ์ สเตเดียม วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ตามเวลาไทย
"ม้าป่า" เก็บชัยเกมแรกของซีซัน เกม "เธิร์สเดย์ ไนท์" เมลวิน กอร์ดอน รันนิงแบ็ก วิ่งทัชดาวน์ 43 หลา ช่วง 1 นาที 48 วินาทีสุดท้าย ขยับสถิติเป็น 1-3 ทำให้ เจ็ตส์ ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นต่อไป
เจ็ตส์ ซึ่งขึ้นนำ 1 แต้ม ผิดพลาดเองดาวน์ที่ 3 ต้องการ 6 หลา ควอเตอร์ที่ 4 ควินเนน วิลเลียมส์ แซ็ก เบร็ตต์ ไรเปียน ควอเตอร์แบ็ก แต่เสียโทษดึงหน้ากาก เริ่มดาวน์ที่ 1 ใหม่ นับจากนั้นอีก 7 เพลย์ต่อมา เดนเวอร์ แซงนำ 30-28 ด้วยฟิลด์โกล 53 หลาของ แบรนดอน แม็คมานัส เหลือเวลา 3 นาทีเศษ
ไดร์ฟการบุกต่อมา เจ็ตส์ ทำอะไรไม่ได้ กระทั่ง แซม ดาร์โนลด์ ควอเตอร์แบ็ก ถูก แบรดลีย์ ชับบ์ แซ็กดาวน์ที่ 4 ต้องการ 3 หลา ก่อนเข้าสู่ช่วงเตือน 2 นาที แถมโดน กอร์ดอน ตอกฝาโลงสนิท ทำสถิติเปิดซีซัน 0-4 ครั้งแรกของแฟรนไชส์
ทีมของ อดัม เกส เข้าใกล้ชัยชนะสุดๆ ปิแอร์ เดอเซียร์ อินเทอร์เซ็ปต์วิ่งย้อน 35 หลา เข้าสู่เอนด์ โซน แต่ ดาร์โนลด์ ขว้างอินคอมพลีตเล่นคอนเวอร์ชัน 2 แต้ม ตีตื้นเหลือ 25-27 ช่วง 10 นาที 45 วินาทีสุดท้าย
ต่อมา ไบรอัน พูล อินเทอร์เซ็ปต์ นำไปสู่ฟิลด์โกลที่ 5 ของ แซม ฟิคเกน ระยะ 36 หลา ทำให้ นิว ยอร์ก แซงนำ 28-27 เหลือเวลาประมาณ 6 นาทีครึ่ง
เกมนี้ ไรเปียน หลานชายของ มาร์ก ไรเปียน ดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซูเปอร์โบว์ล 1992 กลายเป็นควอเตอร์แบ็กคนแรก ซึ่งเก็บชัยชนะได้ หลังลงเล่นตัวจริงเกมแรก แล้วเสีย 3 อินเทอร์เซ็ปต์ นับตั้งแต่ จิม ดรัคเกนมิลเลอร์ ของ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ทำไว้เกมเอาชนะ เซนต์ หลุยส์ แรมส์ 15-12 เมื่อปี 1997