"ม้าศึกลูกแม่โดม" วืด 2 แสน ช่วง 5 นาทีสุดท้ายโดน การท่าเรือฯ เล่นพาวเวอร์เพลย์ยิงแซง 2-3 ทำแต้มจี้ ชลบุรี เหลือ 2 แต้ม ปธ.ธรรมศาสตร์ฯ บอกมีอีก 2 แสน เตรียมล้ม บลูเวฟ ผลอีกคู่ บางกอก ซิตี้ ทุบ เกษมบัณฑิต 5-3
ฟุตซอลไทยลีก 2020 นัด 8 ประวันอาทิตย์ ที่ 6 ก.ย.63 ที่สนามบางกอกอารีน่า มีเกมลงเตะทั้งหมด 3 คู่ โดยคู่บิ๊กแมตช์เป็นการพบกันระหว่าง "สิงห์คลองเตย" การท่าเรือ เอเอสเอ็ม พบ "ม้าศึกลูกแม่โดม" ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน โดยก่อนลงสนามเกมนี้ ท่าเรือ รองจ่าฝูงมีแต้มตามหลัง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี อยู่ 5 แต้ม หลังจากที่ ชลบุรี ลงสนามไปก่อนหน้านี้พ่ายให้กับ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไป 1-2 ขณะที่ธรรมศาสตร์ฯ ก็มีการอัดฉีดก่อนเกมจาก ประธานสโมสร“คุณไต๋” ทักขศิษฏ์ จิตติวาณิชย์ 2 แสนบาทหากคว้าชัยได้
เปิดเกมมาแค่ 15 วินาที การท่าเรือ ก็ส่องประตูนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะเก็บตกหน้าประตูของ มาร์กอส จัดการซัดไม่เหลือ 1-0
น.11 ท่าเรือจ่ายบอลกันพลาด ธนวัฒน์ เกิดบางระจัน ตัดได้ก่อนไหลออกขวาให้ ณัฐศักดิ์ โพธิ กดเรียดตุงตาข่ายสกอร์ 1-1
เกมกลับมาสู้กันสูสี น.15 ไรอัน โกเมส ได้พลิกยิงนอกกรอบ 2 ครั้ง แต่ติดเซฟ อริญชย์ สัมฤทธิ์รินทร์ ทั้ง 2 ครั้ง ผ่านครึ่งแรกเสมอ 1-1
น.29 ธรรมศาสตร์ ได้เตะมุมทางซ้าย จรูญเดช หมื่นเที่ยง เปิดเข้ากลาง นพรัตน์ สาแก้ว โฉบเข้ามาแปบอลเสียบเสาเข้าไปให้ม้าศึกนำ 2-1
น.33 ไรอัน โกเมส ได้พลิกยิงเหน่งๆ อริญชย์ ยังออกมาปิดทางได้ทัน ทัพ “สิงห์คลองเตย” ยังเจาะไม่เข้า น.35 ต้องใช้พาวเวอร์เพลย์ลงสู้และเพียงนาทีเดียว ไรอัน ไหลบอลจากซ้ายให้ มาร์กอส ตวัดซัดด้วยเท้าซ้ายตรงหัวกะโหลกตีเสมอ 2-2
การท่าเรือ ใช้พาวเวอร์เพลย์กดดันต่อ และ น.38 สุทธิพร กลัดเจริญ ได้โอกาสยิงจากนอกเขตบอลเช็ดคานแล้วเข้าประตูไปให้ทีมกลับมานำ 3-2
ธรรมศาสตร์ ต้องใช้พาวเวอร์เพลย์ลุยบ้าง แต่ไม่อาจตีคืนได้ จบเกมการท่าเรือเฉือนชนะไปอย่างสุดมัน 3-2 ทำให้มี 19 แต้มไล่จี้ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เหลือเพียง 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่ คุณ ทักขศิษฏ์ จิตติวาณิชย์ ประธานสโมสรธรรมศาสตร์ฯ ยังเตรียมอัดฉีดต่อ 2 แสนบาท ในเกมที่จะพบทีมจ่าฝูง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี นัดรองสุดท้ายของเลกแรกวันที่ 23 ก.ย.
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ บางกอก ซิตี้ เอาชนะ เกษมบัณฑิต เอฟซี 5-3 ได้ประตูจาก นที ธุศิริ ทำคนเดียว 2 ลูก น.7,16 ,ภาสกรณ์ สกลวารี น.5 ,จักรพล ศรีนารา น.28 และ น.37 ฝั่ง เกษมบัณฑิต ได้จาก บูรฮานุดดีน ลอแม น.13 , วัชรินทร์ นมัสการ น.20 และ กฤษฎาภรณ์ ทองขาว น.39
