อเล็กซิส ซานเชซ ปีกจอมเก๋าทีมชาติชิลี ทิ้งบอมบ์ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเผยแพร่คลิปวีดีโอ เปิดใจอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับช่วงเวลาแห่งฝันร้ายสมัยอยู่กับทีมเก่า
ซานเชซ ย้ายจาก อาร์เซนอล มาสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2018 ฟันค่าเหนื่อยมหาศาล 560,000 ปอนด์ (ประมาณ 23.3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ทว่าเล่นไม่คุ้มค่าจ้าง ผลงานไม่เป็นไปตามที่แฟนบอลคาดหวัง ก่อนย้ายไป อินเตอร์ มิลาน แบบถาวร
ดาวเตะวัย 31 ปี มาอยู่กับ "ผีแดง" ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ นั่งตำแหน่งผู้จัดการทีม อย่างไรก็ตาม เขาเผยความรู้สึกถึงช่วงเวลานั้นผ่านวีดีโอ ทำนองว่ารู้สึกถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงตั้งแต่จบการซ้อมวันแรก
วีดีโอใน อินสตาแกรม ของปีกชาวชิเลียน ร่ายยาวว่า "ผมมีเรื่องจะบอกคุณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ ยูไนเต็ด หลายสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้มันจะทำให้ผมดูแย่"
"ผมได้โอกาสไปเล่นกับ ยูไนเต็ด ทุกสิ่งดูน่าดึงดูดมาก มันเป็นอะไรที่ดีเพราะตอนที่ผมยังเด็ก ผมชอบทีมนี้มาก ผมเซ็นสัญญากับทีมโดยปราศจากข้อมูลใดๆ ซึ่งคุณคงไม่รู้ว่าจะได้เจออะไรบ้างตั้งแต่วันแรกที่ผมมาเจอเพื่อนร่วมทีม"
"ในการซ้อมครั้งแรก ผมได้รับรู้หลายสิ่งหลายอย่าง เมื่อกลับถึงบ้านผมบอกกับผู้ดูแลของผมว่า นี่เรายกเลิกสัญญากลับไปอยู่กับ อาร์เซนอล ไม่ได้แล้วใช่ไหม พวกเขาเริ่มหัวเราะ ผมบอกพวกเขาว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ทว่าเราก็เซ็นสัญญากันไปแล้ว"
9 เดือนก่อนย้ายมา ซานเชซ ถูกยกให้เป็นปีกที่อันตรายที่สุดบนเกาะอังกฤษ ทว่าหลังจากโชว์ฟอร์มไม่ออก เขาก็ถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมเจอกับ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด เดือนกันยายน ปี 2018 และนั่นคือครั้งแรกที่ปีกฮีโร่ทีมชาติชิลี ถูกปฏิบัติเช่นนั้น แม้จะพยายามพัฒนาตนเอง ฝึกหนักเป็น 2 เท่า แต่ก็ไม่อยู่ในสายตาของ มูรินโญ่
ไม่เพียงเท่านั้น คำวิจารณ์จากสื่อมวลชนต่างๆ ก็ทำให้ ซานเชซ แบกรับเสียงด่าทอนั้นไม่ไหว ถึงกับเลือกที่จะย้ายทีม "หลังจากโค้ชคนใหม่มาถึง (โอเล กุนนาร์ โซลชา) ผมตัดสินใจคุยกับเขา บอกเขาว่าผมอยากออกไปสูดอากาศ และขอโอกาสไปที่ อินเตอร์ เขาตอบผมว่าตกลง ไม่มีปัญหาอะไร"
"พวกนักข่าวต่างพูดถึงผมโดยไม่รู้เลยว่ามันเข็บแค่ไหน อดีตนักเตะเหล่านั้นไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทีม และความเห็นนั้นมันก็ทำร้ายคุณ มันเป็นความผิดของคุณ และเพราะพวกเขาต้องหาคนผิดสักคน พวกเขาจึงกล่าวโทษผม"
"สิ่งเดียวที่ผมจะพูดถึงก็คืออยากขอบคุณ ยูไนเต็ด ที่ให้โอกาสผมได้ปกป้องชุดแข่งของผม แม้มันจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ กระนั้นถ้าบรรยากาศมันเป็นไปในทางที่ดี สถานการณ์คงดีกว่านี้ ผมออกมาพูดเรื่องนี้เพราะผ่านมันมาได้แล้ว ผมได้เรียนรู้ในฐานะนักเตะและความเป็นมนุษย์ และอยากจะเอาชนะทุกสิ่งที่ต้องการ"