แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกศาลที่ประเทศกรีซ พิพากษารอลงอาญาจำคุก 21 เดือน 10 วัน หลังกระทำความผิด 4 กระทง เหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ที่เกาะไมโคนอส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม
สำนักข่าวของ สหราชอาณาจักร รายงาน อดีตผู้เล่น ฮัลล์ ซิตี และ เลสเตอร์ ซิตี มีความผิดข้อหา ทำร้ายร่างกาย, พยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน, ใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และดูหมิ่น
กองหลังแพงสุดของโลก 85 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.4 พันล้านบาท) เป็นหนึ่งใน 3 ผู้ต้องหา ซึ่งถูกจับกุมพร้อมกับ โจ แม็กไกวร์ พี่ชาย และ คริสโตเฟอร์ ชาร์แมน เพื่อนสนิท ก่อนถูกปล่อยตัว วันเสาร์ที่ผ่านมา (22 ส.ค.)
แม็กไกวร์ วัย 27 ปี คลอดแถลงการณ์ “หลังฟังคำตัดสินวันนี้ (25 ส.ค.) ผมจัดตั้งทีมกฎหมายซึ่งมีผลทันที เพื่อแจ้งต่อศาลว่าเราจะขออุทธรณ์ ผมยังเชื่อมั่นความบริสุทธิ์ของเราในคดีนี้ หากมีสิ่งที่อยากบอก ทั้งตัวผม, ครอบครัว และเพื่อน ต่างตกเป็นเหยื่อ”
โจ มีความผิดข้อหา ทำร้ายร่างกาย, ใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และพยายามติดสินบน ส่วน ชาร์แมน มีความผิดข้อหาดูหมิ่น, ทำร้ายร่างกาย และใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทั้ง 3 คน ยืนกรานปฏิเสธ
เซ็นเตอร์แบ็กดีกรีทีมชาติอังกฤษ มอบอำนาจแก่ อเล็กซิส อแน็กนอสตาคิส ทนายด้านสิทธิมนุษยชนของกรีซ ซึ่งถูกปฏิเสธคำร้องขอเลื่อนการตัดสิน
อแน็กนอสตาคิส แก้ต่างว่า ชายชาวแอลเบเนีย 2 คน ตามตอแย เดซี น้องสาวของ แม็กไกวร์ ซึ่งเกิดอาการหมดสติ หลังถูกฉีดสารต้องสงสัยว่าเป็น ยาเสียสาว
ฝ่ายจำเลยร้องขอ เจ้าหน้าที่ให้ขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล ทว่ากลับถูกพามาสถานีตำรวจ
ขณะเดียวกัน พยานฝ่ายตำรวจ ให้การต่อศาลว่า แม็กไกวร์ พยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อหลุดคดี พร้อมอ้างคำพูดของผู้ต้องหา “คุณรู้ไหมผมเป็นใคร ผมคือกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ผมรวยมาก ผมสามารถให้เงินคุณได้ ปล่อยเราไปเถอะ”
แม็กไกวร์ เดินทางพักร้อน ที่ประเทศกรีซ หลัง “ปิศาจแดง” ตกรอบรองชนะเลิศ ศึก ยูฟา ยูโรปา ลีก 2019-20 พ่าย เซบีญา 0-2 ที่เมืองโคโลญจ์น วันที่ 16 สิงหาคม