xs
xsm
sm
md
lg

ลีกชาวนา VS ทีมศักดินา “เปแอสเช” ชิงดำ “เสือใต้” สู้เพื่อศักดิ์ศรีและประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บาเยิร์น มิวนิก พบ เปแอสเช ชิงตำแหน่งเจ้ายุโรป วันที่ 23 สิงหาคม ที่เมืองลิสบอน โปรตุเกส
ในที่สุด ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2019/20 ได้คู่ชิงชนะเลิศอย่างเป็นทางการคือ บาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีกา เยอรมนี กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เศรษฐีผูกขาดแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส โดยจะฟาดแข้งชิงตำแหน่งเจ้ายุโรป วันที่ 23 สิงหาคม ที่เมืองลิสบอน โปรตุเกส

บาเยิร์น มิวนิก เข้าชิงถ้วยยุโรปครั้งแรกในรอบ 7 ปี เส้นทางถือว่าสุกสกาวสดใสเพราะจัดจ้านมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ผลงานอันน่าเกรงขามไล่ตั้งแต่บุกถล่ม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คาบ้าน 7-2 ต่อด้วยรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถลุง เชลซี รวมสองนัด 7-1 ถัดมาคือความฮือฮา ฆาตกรรม บาร์เซโลนา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสเปน 8-2 ก่อนตีตั๋วเข้าชิงชนะเลิศด้วยการยิง โอลิมปิก ลียง 3-0 เมื่อคืนวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

แวะมาดู ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ของ โทมัส ทูเคิล ผลงานอาจไม่หวือหวานักในช่วงน็อกเอาต์ แต่ก็ฝ่าทีมแกร่งรอบ 16 ทีมอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมสองนัด 3-2 , เฉือน อตาลันต้า ม้ามืดจากอิตาลีแห่งทัวร์นาเมนต์ช่วงท้ายเกม 2-1 รอบ 8 ทีมสุดท้าย และล่าสุด ใช้ทีมเวิร์กอัด ไลป์ซิก 3-0 ส่งตัวเองเข้าชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

การเข้าชิงของพลพรรค เปแอสเช ลบเสียงครหาจากแฟนบอลทั่วไปได้ไม่น้อย เพราะต้องบอกว่าในบรรดา 5 ลีกยักษ์ของยุโรป พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมนี, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ลีกลูกหนังแห่งแดนน้ำหอมถูกตราหน้าว่าคุณภาพต่ำที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากคุณภาพทีมและการแข่งขันที่ไม่เข้มข้นเท่ากับลีกอื่น ระดับชั้นของทีมเล็กกับทีมใหญ่ต่างกันมากเกินไป

พูดถึง ลีก เอิง ทุกคนต้องนึกถึง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นชื่อแรก (และเผลอๆ จะเป็นชื่อเดียว) เพราะเป็นเจ้าของแชมป์ลีก 9 สมัย และเป็นทีมที่เงินหนาที่สุด พวกเขาพยายามสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในวงการลูกหนังโลก เซ็นสัญญาสตาร์ดังมากมายเช่น เดวิด เบ็คแฮม, เอดินสัน คาวานี, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เนย์มาร์ เจ้าของค่าตัว 222 ล้านยูโร (ประมาณ 8,262 ล้านบาท) และเจ้าเด็กมหัศจรรย์ คีเลียน เอ็มบัปเป้ มายืนกองหน้าถล่มประตู

ผลของการมีซูเปอร์สตาร์ล้นทีม ทำให้คุณภาพการเล่นของ เปแอสเช เจิดจรัสเหนือทีมอื่นใด กวาดแชมป์ในประเทศเป็นว่าเล่นแบบแทบจะผูกขาด แฟนบอลเห็นแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่าย แม้ช่วงหนึ่งจะมี โมนาโก สอดแทรกมาแย่งแชมป์ลีก เอิง ซีซั่น 2016-17 แต่ก็โดน เปแอสเช ที่ทุ่มเงินเป็นสถิติโลกคว้า เนย์มาร์ มาจากบาร์เซโลนา ก็กลับมาทวงแชมป์กลับไปได้ในซีซั่นถัดมา

การผูกขาดความสำเร็จของ เปแอสเช และทีมอื่นที่มีคุณภาพสู้ไม่ได้ ทำให้แฟนบอลในประเทศเบื่อหน่าย พลางตั้งสมญานามลีกนี้ว่า “ลีกชาวนา” (Farmers League) เปรียบเปรยนักฟุตบอลในลีกเอิงว่าส่วนใหญ่เป็นพวกทำไร่ ทำสวน เป็นเกษตรกร ที่มาเตะฟุตบอลหารายได้พิเศษมากกว่า หรืออีกนัยที่ตีความได้แรงกว่าคือนักเตะ ลีก เอิง คุณภาพต่ำ ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ทำให้สู้ใครไม่ได้

อีกหนึ่งฉายาที่ถูกเรียกกัน คือ “ลีกผู้ให้” (Feeder League) เพราะ ลีก เอิง ฝรั่งเศส คือตลาดที่บรรดาทีมยักษ์จากอังกฤษ และ สเปน แวะมาช็อปปิ้งเอานักเตะที่ดีที่สุดของประเทศเป็นประจำ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เชลซี ที่ซื้อ เอเดน อาซาร์ จากลีลล์ เมื่อปี 2012, เลสเตอร์ ซิตี ที่รูดบัตรซื้อ ริยาด มาห์เรซ กับ เอ็นโกโล กองเต้ จาก เลอ อาร์ฟ และ ก็อง ไปหยิบแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปี 2015 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พราก อองโตนี มาร์กซิอาล ไปจากโมนาโก ปี 2015

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำครหาว่านักเตะของ ลีก เอิง ส่วนมากไม่มีใครอยากฝังตัวเองไว้ที่นี่ไปตลอดกาล คนที่ฝีเท้าดีก็พยายามพัฒนาตัวเองด้วยความหวังว่าวันหนึ่งจะมีทีมชั้นนำจากยุโรปมาหิ้วตัวไป เรียกว่า ลีก เอิง คือทางผ่านของนักเตะกลุ่มนี้ก็ว่าได้ ทำให้เวลามีคำถามว่าใครคือนักเตะลีกเอิงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แฟนบอลมักตอบไม่ได้เพราะนักเตะที่เก่งๆ ต่างเก็บของหนีไปอยู่ลีกอื่นกันหมด

อันที่จริงแล้ว บุนเดสลีกา เยอรมนี ก็มีสถานะคล้ายคลึงกันเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค ครอบครองความยิ่งใหญ่ในประเทศ คว้าถาดแชมป์ไปครองแทบทุกปีจนถูกแซวว่า “ทีมศักดินา” แต่หากพิจารณาดูคุณภาพของทีมคู่แข่งอื่นๆ แม้จะมีเงินทุนไม่เท่าแต่หลายครั้งพวกเขาก็สามารถต่อกรกับ “เสือใต้” ได้อย่างสูสี แถมยังมีทีมเล็กคอยสร้างสีสันยัดเยียดความปราชัยใส่ บาเยิร์น ให้ได้เห็นกันบ้าง ใช่ว่า บาเยิร์น จะการันตีชัยชนะเสมอไป

ตัดมาที่ผลงานในเวทียุโรป ทีมสโมสรจากฝรั่งเศส แม้จะสอดแทรกตนเองลงแข่งในรอบลึกๆ แต่ก็ไม่เคยมีทีมไหนก้าวไปถึงแชมป์ ส่วนมากจอดที่รอบน็อคเอาท์ ซีซั่น 2018-19 คือปีที่เลวร้ายของทีมจาก ลีก เอิง เมื่อไม่มีทีมไหนผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย จนทำให้แฟนบอลในประเทศผิดหวัง พลางคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันเห็นทีมของประเทศตัวเองก้าวขึ้นไปครองเจ้ายุโรปเป็นแน่

อย่างไรก็ตาม แชมเปียนส์ ลีก ซีซั่น 2019-20 ทีมจากแดนน้ำหอม แก้ตัวได้อย่างน่าประทับใจ เมื่อ เปแอสเช พาตนเองเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ ส่วน โอลิมปิก ลียง แม้จะจอดที่รอบตัดเชือก แต่รูปเกมที่ต่อสู้กับยักษ์แห่งเมืองเบียร์อย่าง “เสือใต้” ได้แบบสนุกสูสีและเกือบยิงประตูได้ในช่วงครึ่งแรก ทำให้สาวก ลีก เอิง มีรอยยิ้มแห่งความหวังเกิดขึ้นบนใบหน้า แม้แต่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิง เปแอสเช ยังรู้สึกสะใจจนต้องโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “ลีกชาวนาไหมล่ะ”

วันที่ 23 สิงหาคม เกมชิงถ้วย แชมเปียนส์ ลีก แม้ต้องยอมรับว่า บาเยิร์น มิวนิก คือ ตัวเต็งอันดับ 1 เพราะครบเครื่องทั้งคุณภาพการเล่นและนักเตะที่แน่นทุกขุมกำลัง แต่บอลเตะนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ และแน่นอนว่าพลพรรค เปแอสเช ต้องทุ่มสรรพวุธที่มีอย่างเต็มกำลัง เพื่อสลัดภาพทีมจาก “ลีกชาวนา” หรือ “ทีมผูกขาด” ในสายตาใครต่อใคร ขึ้นเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรก และยกระดับ ลีก เอิง ให้เป็นลีกชั้นนำอย่างเต็มภาคภูมิ
กำลังโหลดความคิดเห็น