หลังจากที่ คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด –19) มีมติเห็นชอบให้สามารถจัดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมได้ ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอรูปแบบจากแมตช์สาธิตในการจัดการแข่งขันฟุตบอลแบบผู้ชม ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
การแข่งขันกีฬาฟุตบอล จัดอยู่ในประเภทสนามกีฬากลางแจ้ง โดยแนวทางการจัดการแข่งขันแบบมีผู้ชมได้นั้น ถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับสีเหลือง ระดับสีเขียว และ ระดับสีขาว ซึ่งแต่ละระดับถูกกำหนดสัดส่วนจำนวนแฟนบอลที่สามารถเข้าไปชมการแข่งขันในสนามไว้ ดังนี้
#ระดับสีเหลือง แฟนบอลมีการตะโกนเชียร์ หรือ ส่งเสียงเชียร์ได้ อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมได้ 15 เปอร์เซนต์ ต่อ ความจุของสนาม แต่ต้องไม่เกิน 1,000 คน
#ระดับสีเขียว แฟนบอลมีการตะโกนเชียร์ หรือ ส่งเสียงเชียร์ได้ อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมได้ 25 เปอร์เซนต์ ต่อ ความจุของสนาม แต่ต้องไม่เกิน 2,000 คน
#ระดับสีขาว แฟนบอลมีการตะโกนเชียร์ หรือ ส่งเสียงเชียร์ได้ อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมได้ 50 เปอร์เซนต์ ต่อ ความจุของสนาม แต่ต้องไม่เกิน 5,000 คน
อนึ่ง การจัดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยสถานการณ์จัดอยู่ในระดับสีเขียว ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ แต่มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
สำหรับ โปรแกรมการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 5
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563
17.45 น. ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม
18.00 น. สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี ณ สนามสิงห์ สเตเดี้ยม
19.00 น. สุพรรณบุรี เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ณ สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี
20.00 น. สุโขทัย เอฟซี พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ณ สนามทะเลหลวง สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2563
18.00 น. ชลบุรี เอฟซี พบ ตราด เอฟซี ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม
18.00 น. การท่าเรือ เอฟซี พบ โปลิศ เทโร เอฟซี ณ สนามแพท สเตเดี้ยม
19.00 น. สมุทรปราการ ซิตี้ พบ ระยอง เอฟซี ณ สนามสมุทรปราการ สเตเดี้ยม
19.00 น. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม