แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ตำหนิลูกทีมขาดความละเอียด หลังพ่ายแก่ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ทีมท้ายตาราง แบบพลิกล็อก 2-3 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่สนาม ลอนดอน สเตเดียม คืนวันพุธที่ 1 กรกฎาคม
ทีมของ แลมพาร์ด เหนือกว่าตลอด 90 นาที ทว่า เกิดเหตุไม่คาดฝัน อังเดร ยาร์โมเลนโก กองหน้า เวสต์ แฮม สวมบทฮีโร่ ยิงประตูชัยนาที 89
ทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ชวดแซง เลสเตอร์ ซิตี ขึ้นอันดับ 3 กระชับพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และยังคงรั้งอันดับ 4 ทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แค่ 2 แต้ม
บิ๊กบอสวัย 42 ปี กล่าว “มันเกิดขึ้นได้เสมอ นี่คือ พรีเมียร์ ลีก เราเหนือกว่าด้านการครองบอล แต่การเล่นผิดพลาดส่วนบุคคล หรือของทีมจะทำร้ายตัวเอง ผมไม่พอใจกับการเสียประตูเลย มีรายละเอียดมากมายในเกม ซึ่งเรารู้อยู่แล้ว แต่เราแพ้เพราะเราไม่ปรับปรุง”
“สิงโตน้ำเงินคราม” ฟาดแข้งเกม ลอนดอน ดาร์บี ด้วยความมั่นใจปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี สัปดาห์ที่แล้ว (25 มิ.ย.) และ เอาชนะ เลสเตอร์ เข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ทว่าสถิติชนะรวด นับตั้งแต่พ้นเบรก โควิด-19 สิ้นสุดลงด้วยความปราชัยแก่ “เดอะ แฮมเมอร์ส” ที่กำลังหนีตกชั้น
วิลเลียน ปีกจอมเก๋า สังหารจุดโทษ ขึ้นนำ 1-0 แต่ ทีมของ เดวิด มอยส์ ทวงคืน 2 ประตูรวด จาก โทมัส ซูเซ็ก กับ มิเชล อันโตนิโอ นาที 45+2 กับ 51
แนวรุกบราซิเลียน ปั่นฟรีคิกสุดสวย เป็นประตูที่ 2 ของตัวเอง เฉพาะเกมนี้ ตามตีเสมอ 2-2 จากนั้น “สิงห์บลูส์” เร่งบุกเพื่อชัยชนะ กระทั่งถูก “ขุนค้อน” เล่นงานด้วยเกมสวนกลับ
“นี่คือ สาเหตุว่าทำไมเราจึงลุ้นแค่ท็อป 4 ไม่ใช่อันดับ 1 หรือ 2 เพราะเราไม่เคยเรียนรู้และแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างที่ทีมใหญ่ๆ ทำได้ ผมไม่ประทับใจผลงานวันนี้เลย แต่ขณะเดียวกัน เรานำ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังฟอร์มดีมาพักหนึ่ง 2 แต้ม ผมคิดว่าเราเล่นดีเหลือเกินตลอดซีซันนี้ แต่เราต้องมีความคงเส้นคงวา” นายใหญ่ชาวอังกฤษ ทิ้งท้าย