ฝีมือบนสังเวียนเป็นหนึ่งในแดนสยาม แถมยังเป็นนักมวยที่มีเงินเก็บหลักล้าน แต่เจ้าตัวยังไม่หยุดความสำเร็จไว้เพียงวัย 23 ปี
ปัจจุบันนอกจากเขาจะเป็นนักกีฬาในสังกัดองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ แล้ว เขายังคงให้ความสำคัญด้านการศึกษาและกำลังเดินหน้าล่าฝันกับการเรียนต่อปริญญาโทในคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เพื่อหวังจะได้มีโอกาสรับใช้ชาติบ้านเมืองในอนาคต
"ผมเป็นคนที่ชอบวิชากฏหมายมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ แต่ตอนที่เรียนปริญญาตรี ผมเลือกคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับวิชาชีพนักมวยที่ผมทำอยู่ อีกอย่างวิชากฏหมายนั้นเนื้อหาค่อนข้างหนัก และต้องเรียนถึง 4 ปี ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม"
"เมื่อมีโอกาสได้ต่อปริญญาโท ซึ่งเรียนแค่สองปี ผมจึงกลับมาเรียนด้านกฎหมาย แต่ถ้าเข้าคณะนิติศาสตร์เลยอาจจะหนักเกินไป เพราะผมยังต้องทำงานเป็นหลัก จึงขอพบกันครึ่งทางที่คณะรัฐศาสตร์ดีกว่าครับ"
แสงมณี ได้รับทุนนักกีฬาให้ศึกษาฟรีจนถึงระดับปริญญาเอก แต่ในตอนนี้เขายังไม่ได้คิดไกลไปถึงขั้นนั้น เพราะยังมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่างทั้งการเป็นนักมวย และดูแลธุรกิจค่ายมวยของที่บ้าน
"อาชีพนักมวย วันหนึ่งก็ต้องแขวนนวม ถ้าให้มองถึงความมั่นคงในระยะยาว การเข้ารับราชการตอบโจทย์ผมที่สุด ที่ผมอยากเป็นตำรวจก็เพราะว่าเป็นอาชีพที่ยังเกี่ยวข้องกับกฏหมายบ้านเมืองด้วยครับ"
สำหรับงานรับปริญญา (ปริญญาตรี) ของ แสงมณี ถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่หากเจ้าตัวทราบกำหนดการที่แน่นอน เขารับปากว่าจะแจ้งข่าวให้แฟนคลับทราบ เผื่อจะได้แวะมาถ่ายรูปร่วมกันด้วย
