ปาทริซ เอฟรา อดีตแบ็กซ้ายขวัญใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจรำลึกความหลัง 9 ปีที่แล้ว กับเรื่องราวบาดหมางระหว่างตัวเองกับ หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล ในมุมที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล เกม เอฟเอ คัพ ซัวเรซ กับ เอฟรา โต้เถียงกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายแรกใช้คำพูดเหยียดผิวอีกฝ่ายก่อน จนกลายเป็นความบาดหมางที่โด่งดังไปทั่วโลก
เอฟร่า เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ ซัวเรซ ต้องโดนแบนสถานหนัก 8 เกม และปรับเงินอีก 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ว่าแข้งชาวอุรุกวัย เจตนาเหยียดหยามตนเองจริง และไม่พอใจที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ยังให้การหนุนหลัง
"ผมคิดว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลัง เกมที่เราเจอกับ ลิเวอร์พูล เรากำลังเล่นได้ดีและผมก็ไปประกบเขาระหว่างเล่นลูกเตะมุม เขาพูดกับผมเป็นภาษาสเปนว่า อย่ามาแตะต้องกู กูไม่อยากพูดกับพวกนิโกร"
"บางทีเขาอาจไม่รู้ว่าผมพูดสเปนได้และถามเขากลับไปว่าพูดอะไรวะ เขาตอบว่า ใช่ มึงเข้าใจถูกแล้ว กูไม่อยากพูดกับพวกนิโกร กรรมการวิ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเห็นสายตาผมเปลี่ยนและถามว่าโอเคไหม ผมบอกกรรมการว่าผมโดนเหยียดผิวและเขาก็บอก โอเค เดี๋ยวไปคุยกันหลังเกม เล่นกันต่อและอย่าทำอะไรงี่เง่า"
"ผมจำได้ดี ระหว่างเกม ผมคุยกับตัวเองบ่อยครั้งว่าจะต่อยมันดีไหม แต่เขาก็จะเห็นคุณเป็นผู้ร้ายทันทีและลืมไปเลยว่าเขาพูดอะไร ผมเลยต้องบอกตัวเองว่าไม่ อย่าทำแบบนั้น แต่มันก็ทำให้ผมมีสมาธิกับเกมไม่ได้เลยให้ตายเถอะ"
แม้จะแก้ต่างภายหลังว่าคำว่า นิโกร หมายถึง เพื่อน แต่ ซัวเรซ ก็ได้รับการตัดสินโทษหลังจบเกมดังกล่าว และความไม่พอใจก็ยิ่งปะทุขึ้นเมื่อได้เห็นนักเตะ ลิเวอร์พูล สวมเสื้อเบอร์ 7 หนุน ซัวเรซ ในเกมแดงเดือดนัดถัดมา
"ตอนผมได้ยินว่า หลุยส์ ซัวเรซ ลงตัวจริงและเขาโกหกว่า นิโกร ที่เขาพูดหมายถึง เพื่อน ผมถึงกับคิดว่านั่นไม่ใช่ชื่อกูโว้ย แม่กูตั้งชื่อมาให้แล้ว ไม่ใช่สีผิว และผมจำได้ดี นักเตะลิเวอร์พูล ใส่เสื้อหนุน ซัวเรซ ทั้งที่เขาโดนแบนเพราะเหยียดผิว และทุกคนยังทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ มันทำให้ผมหัวเสียและหงุดหงิดฉิบหาย"
อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งทีมชาติฝรั่งเศส ก็ระบุว่ารู้สึกดีขึ้นเมื่อผู้บริหารของ ลิเวอร์พูล อย่าง ปีเตอร์ มัวร์ แสดงความขอโทษอย่างจริงใจ และทั้งสองคนก็ยุติเรื่องบาดหมางนี้ไปแล้วหลังมีโอกาสเจอกันอีกครั้งในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ปี 2015 โดยซัวเรซ เล่นให้ บาร์เซโลน่า และ เอฟร่า เล่นให้ ยูเวนตุส แถมจับมือกันก่อนแข่งสมานฉันท์
"ผมไม่เคยเรียก ซัวเรซ ว่าไอ้จอมเหยียดผิว เพราะผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แม้กระทั่งเราเล่นนัดชิง แชมเปียนส์ ลีก ผมเล่นให้ ยูเวนตุส ผมก็จับมือเขาและพูดคุยกัน การให้อภัยเกิดขึ้นอบ่างรวดเร็ว เพียงแค่ไม่เข้าใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตกเป็นเหยื่อ ทำไมสื่อหรือคนอื่นๆต้องบอกให้หยุดร้องไห้ ผมไม่ได้ร้องสักหน่อย ผมจะร้องไห้ทำไม"