"เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มไฟแรง เพชรยินดี โปรโมชั่น หนึ่งในผู้พิทักษ์วงการมวยเมืองไทย เปิดใจผ่านโลกโซเชียล จากเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังเครียดกับช่วงเฝ้าระวังวิกฤตไวรัสร้าย จับใจความได้ว่า
"ตลอดเวลาเกือบสองเดือน ผมอยู่แต่กับความทุกข์ใจ ที่ได้เห็นพี่น้องทุกคนในวงการมวยต้องอยู่ในสภาพที่ยากลำบากแบบนี้ เราจะเอาตัวรอดกันไปได้ยังไง?? คำถามนี้คือเหตุผลให้ผมต้องออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับคนมวยที่กำลังเดือดร้อน ตอนนี้วงการมวยเหมือนกำลังขาดที่พึ่ง จะพึ่งพาใครก็ไม่ได้ ไม่มีใครคิดหรือทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับสังคมโดยรวม ถ้าตัวเองไม่มีผลประโยชน์ ก็ไม่มีใครอยากเปลืองตัว"
"จนในที่สุดเมื่อคืนนี้ เป็นวันที่ผมดีใจที่สุด ในรอบเกือบสองเดือน มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาหาผมตอนสี่ทุ่มครึ่ง ในสายคือ พี่ชาตรี ศิษย์ยอดธง พี่ชาตรีมีความเป็นห่วงวงการมวยไทยมากๆ จากการพูดคุยกันกว่าครึ่งชั่วโมง สิ่งที่ทำให้ผมยิ่งรักและศรัทธาผู้ชายคนนี้คือ คำพูดที่ว่า “พี่จะช่วยวงการมวยยังไงได้บ้าง..??”
"ฟังแล้วเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ได้คุยเบื้องต้น เขาถามเรื่องสถานการณ์มวยเป็นอย่างไรบ้าง จะให้ช่วยอะไรได้บ้าง เขาขอเวลาไปประชุมใหญ่อีกทีว่าจะช่วยอย่างไรในช่วงพักหนีโควิด
ล่าสุด 25 เม.ย.63 จากการสอบถาม "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช โปรโมเตอร์มวยไทยวัย 32 ปี เจ้าตัวกล่าวถึงสภาพทั่วไปคนวงการมวยว่า “ทั้งนี้เพราะลำพังจะให้เรารอเงินเยียวยาจาก กกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย) ในตอนนี้ก็เห็นจะลำบาก กว่าจะได้เงินอย่างเร็วสุด ก็คงต้องเดือนมิ.ย.โน่น ตามที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าฯกกท. ท่านรับปาก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วคนวงการมวยจะอยู่อย่างไร จะทำอย่างไรตลอดระยะเวลา 40 กว่าวันนี้"
"เพราะอย่าลืมว่า อาชีพนักมวยไม่เหมือนอาชีพอื่น อย่างฟุตบอล นั่นเขามีเงินเดือน แต่นักมวยไม่มี จะกินจะใช้ก็ต้องขอหัวหน้าคณะ พวกเราคนมวยต้องดูแลกันเองช่วยเหลือกันเอง อย่างผมเป็นโปรโมเตอร์ ก็พยายามช่วยเท่าที่เราจะช่วยได้ ซึ่งผมก็ไม่มีรายได้เมื่อไม่มีการจัดมวย สายป่านเราอย่างยาวที่สุดก็คงประคับประคองไปได้เพียงแค่ 2-3 เดือน แต่ถ้าเหตุการณ์ยาวไป เราจะทำอย่างไร"
ต่อข้อถามที่ว่า หากพ้นวิกฤตไว้รัสร้ายไปแล้ว การกลับมาดำเนินกิจการต่อไปดังเดิม และเริ่มจัดการแข่งขันกันใหม่ ซึ่งวงการมวยอาจจะเป็นกีฬาชนิดสุดท้ายที่ได้รับไฟเขียวให้กลับมาแข่งขันกันได้ตามปกติ ซึ่งคำถามเรื่องนั้นก็อาจเป็นจริง และอยากถามว่า คนวงการมวยพวกเราจะอยู่กันอย่างไร ใครจะเหลียวแล เพราะเราเป็นกลุ่มที่โดนสังคมโจมตีวิพากษ์วิจารณ์กันมากกว่ากลุ่มใด ผมเองรู้สึกดีใจมากที่ คนในวงการอย่างคุณชาตรี ศิษย์ยอดธง สอบถามมาด้วยความห่วงใย และยังคิดจะหาทางช่วยเหลือ"