นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 2/2563 โดยมี นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และกรรมการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
ตามที่ ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยคณะรัฐมนตรีมีมติใช้มาตรการปิดสถานที่ซึ่งผู้คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร แต่มาเพื่อทำกิจกรรมที่มีการเบียดเสียด ใกล้ชิด และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่าย ทางปาก (ตะโกน เชียร์) สัมผัส ถูกเนื้อ ถูกตัว หรือใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น สนามมวย สนามกีฬา โรงมหรสพ ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งผลของการดำเนินการภายใต้มาตรการของรัฐบาลทำให้ การจัดการแข่งขันกีฬามวย การอบรม และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬามวย ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่ออาชีพนักมวย ผู้ฝึกสอน ในวงกว้างจากการไม่มีรายได้ นั้น
สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้รายงานเสนอแผนเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนของนักมวย และหัวหน้าค่ายมวยที่ได้รับผลกระทบจากการออกคำสั่งนายทะเบียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสฯ ให้ระงับการแข่งขันกีฬามวย ภายใต้มาตราการของรัฐบาล โดยให้ความช่วยเหลือเพื่อการดำรงชีพ สำหรับจำนวนนักมวยที่ได้รับผลกระทบจากการออกคำสั่งนายทะเบียนฯ และได้ขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 2,000 คน และผู้ฝึกสอน จำนวน 500 คน
โดยในวันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติหลักการปรับแผนงบประมาณประจำปี 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 25,642,000 บาท เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้กับนักมวยและผู้ฝึกสอนที่ได้รับผลกระทบและได้ขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยเบื้องต้น ระหว่างขอรับงบประมาณช่วยเหลือจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเพิ่มเติม โดยมอบหมายฝ่ายเลขาฯ นำรายชื่อนักมวยและผู้ฝึกสอนที่ขึ้นทะเบียนฯ ข้างต้นไปตรวจสอบกับกระทรวงการคลังให้ถูกต้อง ว่าผู้ใดทีได้ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นข้อมูลคัดกรองเบื้องต้นและไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกันให้กับคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการให้การช่วยเหลือต่อไป ซึ่งมี นายณัฐวุฒิ เรืองเวส เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยหลังการประชุมว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมหารือในวันนี้คือเรื่องของการพิจารณาให้ความช่วยเหลือนักกีฬามวยและบุคลากรในวงการมวยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ COVID-19 ได้มีการหารือและเร่งรัดการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือนักมวยกับผู้ฝึกสอน
โดย 2 กลุ่มนี้ กกท.จะเร่งให้การช่วยเหลือ โดยการเร่งประสานข้อมูลกับกระทรวงการคลังตรวจสอบรายชื่อที่ได้รับการช่วยเหลือ เงินจำนวน 5,000 บาท จากโครงการรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และนอกเหนือจากที่เร่งประสานข้อมูลจากกระทรวงการคลังแล้ว ทาง กกท.จะต้องดูแลส่วนที่ไม่ได้รับประโยชน์จากเงินการดูแล จำนวน 5,000 บาท ของโครงการของรัฐบาลด้วย ในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่น ในกระบวนการของกระทรวงการคลังนั้นผู้ที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ จะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ในทะเบียนมวยนักกีฬาอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เห็นแล้วว่าจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงการคลังอย่างเเน่นอน ที่ประชุมจึงได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อที่จะพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆในการให้การช่วยเหลือ โดยในวันนี้คณะกรรมการกีฬามวยได้อนุมัติปรับแผน จัดสรรเงินจำนวน 25 ล้านบาทเศษในเบื้องต้น มาช่วยเหลือสนับสนุนให้บุคลากรในวงการกีฬามวย โดยเฉพาะนักกีฬามวยที่ไม่ได้รับสิทธิจากรัฐบาล เพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่ในระบบและได้ลงทะเบียนเป็นนักกีฬามวยและผู้ฝึกสอนอยู่ในระบบสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ของ กกท. ก็จะได้รับการดูและอย่างเท่าเทียมกัน